พวกผมแค่ชมชอบในรสชาติของสุรา เรื่องราวที่เขียน เริ่มต้นจากความชอบและความสนใจ ที่นำไปสู่การค้นหา
เมื่อได้รับรู้ และทดลองด้วยตัวเองแล้วก็อยากแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ และคนอื่นๆ ที่สนใจในเรื่องเดียวกันครับ

ข้อคิดเห็นที่ให้เกี่ยวกับเรื่องการร่ำสุราในแต่ละประเภท เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ที่ได้มาจากการลองของด้วยตัวเอง
ที่แค่อยากรู้ และอยากลองตามประสาครับ ผิดถูกประการใดก็คงไม่สามารถรับรองได้ครับ ขอน้อมรับคำแนะนำ และติชมทุกประการครับ


*** หมายเหตุ *** สงวนสิทธิ์สำหรับการอ่านและนำไปใช้ประกอบบทความเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้กัน และไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ทุกอย่างครับ

วันอาทิตย์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2553

Glenmorangie Single Malt Whisky ตอนที่ 2

Glenmorangie The Original 10 YO

เมื่อแรกสัมผัสกลิ่นนั้นหอมอวลยวนเย้าใจอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ ครับ กลิ่น Malt และ Oak ที่รุมเร้าเข้ามาเมื่อแรกเปิดขวดออกมา เมื่อรินออกมากลิ่นนั้นยิ่งยั่วยวนให้อยากลองมากขึ้นไปอีก สีนั้นออกแนวสีทองใสๆ   ขาของเหล้านั้นไม่หนักมาก แต่ก็ไม่เล็กเกินควรความ ในเรื่องของรสชาตินั้นขอบรรยายแบบบ้านๆ ต่อครับ ว่ารสชาตินั้นนุ่มนวลชวนให้อยากลิ้มลองแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ แบบที่เพื่อนๆ เคยเล่าให้ฟังว่า ถ้าขืน on the rock นี่มีหวังแค่ไม่เกินครึ่งชั่วโมง คงได้ต่อขวดใหม่แน่ๆ ครับ ยิ่งแบบ neat ด้วยแล้วยิ่งหอมฟุ้งเชียวครับ แบบนี้ทำให้อยากลองตัวต่อยอดของเจ้านี่เข้าแล้วล่ะสิ   

ในเรื่องของ After taste นั้นเจ้าขวดนี้ทำได้ค่อนข้างหน้าประทับใจครับ
กับความอวลที่ไม่มากไม่น้อย ไม่สั้นและก็ไม่ยาวเกินควรเรียกได้ว่ากำลังดีเชียวครับ





Glenmorangie Quinta Ruban 12 YO

ยอมรับโดยดีครับว่าเพลานี้หลงเสน่ห์ ของ Single Malt เข้าอย่างจังครับ
ด้วยความหอมหวานละมุ่นนุ่มลิ้น และไม่ hang over เมื่อตื่นนอนในวันรุ่งขึ้น ก็เลยตัดใจถอยเจ้าตัวนี้ Glenmorangie The Quinta Ruban จากห้างดอกบัวที่ราคาคงหาได้ยากแล้วเวลานี้ 1650.- ครับ ส่วนใหญ่ที่เห็นเดี๋ยวนี้ 2000+ ครับ 

เมื่ออ่านดีๆ พบว่าเจ้าตัวนี้มีการบ่มสองครั้งก่อนออกขายครับ โดยจะบ่มในถัง Bourbon เก่าก่อนบ่มซ้ำอีกครั้งในถังที่เรียกว่า Ruby Port ตามคำแปลอย่างงูๆ ปลาๆ ของผมเข้าใจว่าเป็นถังไวน์เก่าครับ ทำให้กลิ่นและรสชาติที่ได้นุ่มละมุ่นกว่าเจ้าตัว Original ที่เหลือแต่ขวดไปแล้วเพลานี้  

กลิ่นเมื่อเปิดขวดหอมกลิ่นของ Oak และกลิ่นคล้ายกับ Bourbon ลอยมาแตะจมูกบ้านๆ ของผมอย่างแรงครับ กลิ่นฉุนของแอลกอฮอล์นั้นเรียกไว้ว่าเบามากๆ จนแทบจะไม่มีเลยครับ เมื่อเทียบกับ JW Blue Label ขวดเล็กที่มีอยู่ครึ่งขวดเล็ก ผมว่า Blue ยังต้องถอยให้กับเจ้านี่ครับ 

รสชาติเมื่อแรกสัมผัสกับลิ้นบ้านๆ ของผมนั้นประทับใจมากมายครับ จนเรียกได้ว่าแทบจะลืมเลือน JW Blue ที่ว่าแน่ๆ ไปได้เลยครับ ความหอมหวานที่ค้างคาอยู่ในปากเมื่อกลืนลงไปหมด ทิ้งความหวานไว้ที่ปลายลิ้นทำให้อยากสัมผัสได้อย่างชวนถวิลหาครับ

ตอนนี้เริ่มกลายเป็นพวก non-ice ไปแล้วครับ ด้วยความอยากสัมผัสกับรสชาติที่แท้จริง รสชาตินั้นออกจะดุดันเมื่อเทียบกับ Original แต่ความหอมยาวนานที่ทิ้งไว้ผิดกันเยอะครับ ประทับใจมากมายกับกลิ่นและรสชาติ จากลิ้นบ้านๆ ของผมว่ามีความหวานของคาราเมลและความหอมของวนิลาเจืออยู่ด้วยครับ อันนี้ไม่ confirm นะครับพี่น้อง   
ว่างๆ ก็หามาลองกันได้ตามสะดวกครับ ส่วนผมนั้นขอไปนั่งละเลียดที่เหลือติดก้นขวดเล็กน้อยก่อนดีกว่าครับ 
คงต้องหาอีกตัวที่เหลือ Glenmorangie The Lasanta Sherry Cask Extra Matured มาลองให้ได้ดีกว่าครับ  
ว่าแต่ว่ามันจะหาราคาแบบนี้ได้อีกหรือปล่าวหว่า  




Glenmorangie Lasanta

สำหรับตัวนี้เป็นเหล้าที่ไป Finished ใน Sherry oak cask จากสเปนครับ ไม่เหมือนกับ The Quinta Ruban ที่ Finished ใน Port Cask จากโปรตุเกสครับ

กลิ่นจะออกแนวแรงกว่า quinta ruban ด้วยความแรงที่ 46%vol ครับแต่ก็จัดว่าค่อนข้างน้อยกว่าพวก Blended whisky ครับ เมื่อเททิ้งไว้สักครู่กลิ่นของ Oak จะเด่นมากขึ้นเมื่อได้สัมผัสกับอากาศครับแต่จะออกแนว Strong กว่าตัว Quinta ที่ให้ความหอมแบบนุ่มนวลครับ 

รสชาติเมื่อแรกสัมผัส รู้สึกถึงความอุ่นๆ กรุ่นอยู่ในปาก ปนด้วยความร้อนแรง ออกแนวเผ็ดร้อน
เมื่อทิ้งค้างไว้จะพบกับความเร่าร้อนในรสชาติ และเมื่อได้กลืนลงคอจะพบกับความสดชื่นที่ชวนถวิลหาในความร้อนแรงของเจ้านี่ครับ

After Taste นั้นเยี่ยมครับ ความร้อนแรงแฝงความเร่าร้อนแบบที่ชวนถวิลหาไว้ให้ ไม่เหมือนกับ Quinta Ruban ที่ทิ้งความนุ่มนวลชวนฝันไว้ เปรียบ Lasanta เหมือนสาวน้อยที่เร่าร้อน ส่วน Quinta Ruban เหมือนสาวหวานที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ครับ  

The Lasanta  ขวดนี้เหมาะในยามเหนื่อยล้าต้องการความเร่าร้อนมาฟื้นฟูกำลังกายกำลังใจครับ แต่หากต้องการความนุ่มนวลชวนฝันหรือผ่อนคลายความตึงเครียดแล้วละก็แนะนำ quinta ruban ในงบที่ไล่เรี่ยกันครับ ถ้างบน้อยแต่ต้องการความนุ่มนวลแล้วล่ะก็ Gentleman Jack เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจครับ

ความคิดเห็นทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ครับ 

1 ความคิดเห็น:

  1. Glenmorangie Quinta Ruban 46% ความเห็นของของผมเพิ่มเติมครับ

    Appearance: สีทองแดงไปถึงน้ำตาลเข้ม ขาใหญ่ไหลช้า
    Aroma: กลิ่นช๊อกโกแล็ตนำเด่น วนิลา และกลิ่นแอลกอฮอร์แรงพอตัวตามดีดรีที่ดุดันถึง 46 ดีดรี
    Taste: เผ็ดแอลกอฮอร์กลบรสความหวานไปพอควร มีกลิ่นหอมมันช๊อกโกแล็ต คาลาเมว อัลมอน์
    With Water: รสหวานออกตัวมานิดหน่อย ความมันเนียนค่อนข้างชัด กลิ่นต่างๆ ตอนTeste บางลงแต่ยังมีอยู่
    Finish: ติดมันในปาก คอ กลิ่นค้างพอสามควร ขนาดตามน้ำเปล่าไป 2-3 แก้วยังหลงเหลือกลิ่นและรสอยู่เลย กลิ่นย้อนกลับมาอ่อนๆ แต่มาแบบเรื่อยๆ

    สรุป: Quinta Ruban คล้ายๆ ตัว Original แต่ดุดันกว่า(เหมือนเอา Original ไปตุ๋นจนข้นเหลือแต่เนื้อๆ น้ำไม่เอา)กลิ่นมาเต็มๆ แบบไม่มีกั๊ก ความมันก็จัดมาแบบหนักๆ ดื่มมากๆ มีเลี่ยน โดยรวมตัวนี้ผมว่าสุดยอดครับผมชอบที่จะดื่มแบบ Neat เพราะผมรู้สึกว่าพอผสมน้ำหรือใส่น้ำแข็งลงไปแล้วแม้กลิ่นแรงของแอลกอฮอร์จะลดลงดื่มง่ายขึ้นแต่ก็ไปทำให้กลิ่นอื่นๆ ลดลงไปด้วยรู้สึกมันขาดๆ เกินๆ พิกล

    ตอบลบ