พวกผมแค่ชมชอบในรสชาติของสุรา เรื่องราวที่เขียน เริ่มต้นจากความชอบและความสนใจ ที่นำไปสู่การค้นหา
เมื่อได้รับรู้ และทดลองด้วยตัวเองแล้วก็อยากแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ และคนอื่นๆ ที่สนใจในเรื่องเดียวกันครับ

ข้อคิดเห็นที่ให้เกี่ยวกับเรื่องการร่ำสุราในแต่ละประเภท เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ที่ได้มาจากการลองของด้วยตัวเอง
ที่แค่อยากรู้ และอยากลองตามประสาครับ ผิดถูกประการใดก็คงไม่สามารถรับรองได้ครับ ขอน้อมรับคำแนะนำ และติชมทุกประการครับ


*** หมายเหตุ *** สงวนสิทธิ์สำหรับการอ่านและนำไปใช้ประกอบบทความเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้กัน และไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ทุกอย่างครับ

วันพุธที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2556

น้องสาหร่าย Laphroaig Quarter Cask


หลังจากกลับมาจากลุย Islay ได้ 1 เดือนก็ได้เวลาที่ผมต้องรีวิวอะไรใหม่ๆ ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันเดือนนี้ผมก็ยังคงวนเวียนอยู่ใน Islay นะครับซึ่งวิสกี้ที่ผมเอามารีวิววันนี้เป็น Laphroaig Quarter Cask ครับ Laphroaig เป็นโรงกลั่นที่ขึ้นชื่อเรื่องควันที่ไม่เหมือนใครซึ่งรุ่น 10ปี ผมยอมรับเลยครับว่าไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบควันก็ควรจะต้องลองจริงๆ ครับ ซึ่งมีความโดเด่นทั้งควัน ทั้งความสดชื่น กลิ่นสะอาดๆ แถมบอร์ดี้ที่กำลังดีเป็นเอกลักษณ์ของโรงกลั่นนี้เลยครับ
มาถึง Quarter Cask รุ่นนี้เราอาจจะเพิ่งเห็นวางขายใน Duty free ได้ประมาณ 3ปี แต่จริงๆ มีประวัติมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 โดยจุดเด่นอยู่ที่ขั้นตอนการผลิตที่จะบ่มเหล้าในถัง ex-bourbon ประมาณ 4-6ปี และบ่มต่อในถัง Quarter คือถังที่มีขนาด 1/4 ของขนาด Barrel หรือประมาณ 50ลิตรอีกประมาณ 8เดือนขึ้นไป ซึ่งการบ่มในถังขนาดเล็กวิสกี้จะสามารถสัมผัสกับเนื้อไม้ได้มากกว่าถังขนาดปกติซึ่งจะทำให้วิสกี้ที่ได้มีกลิ่นใกล้เคียงกับวิสกี้ที่บ่มกับถังขนาดปกติแต่ใช้ระยะเวลาการบ่มน้อยกว่า และทำให้วิสกี้ที่ได้ไม่สูญเสียสัมผัสและบอร์ดี้แถมยังได้กลิ่นที่เหมือนกับวิสกี้ที่บ่มในถังขนาดปกติอีกต่างหาก

Laphroaig Quarter Cask ขวดนี้บรรทุกแอลกอฮอล์มาที่ 48% บรรจุแบบ non-chill filtered ซึ่งการดื่มเหล้าแบบนี้ควรจะเติมน้ำนิดนึงเพื่อดึงรสชาติขิงเหล้าออกมาครับ

Appearance: สีทอง Yellow Gold ขาเล็กยาวไหลช้าทีเดียว

Aroma: กลิ่นควันนำ กลิ่นน้ำยาทำความสะอาดและตามมาด้วยกลิ่นไม้ไหม้

Taste: สัมผัสค่อนข้างเผ็ด เค็มนำ หวานนิดๆ กลิ่นควันอบอวล กลิ่นอับๆ มันๆ คล้ายกะทิ แต่มาใกล้ๆ ด้วยกลิ่นยางไหม้

With Water: รสหวาน กลิ่นต่างๆ จางลงไป จับกลิ่นยาล้างเล็บ ไม้ไหม้ได้ชัดขึ้น

Finish: ทิ้งความเผ็ดไว้ที่ปลายลิ้น บอร์ดี้กลางๆ และรสหวานอ่อนๆ ไว้ในปาก กลิ่นควันและกลิ่นน้ำยาทำความสะอาดตามติดและผสมมากับกลิ่นยางไหม้นิดหน่อยไว้ยาวพอสมควร

สรุป: ตอนที่ผมลอง Quarter Cask ผมได้ลองพร้อมกับตัว 10ปี ผมรู้สึกว่ามีรสชาติคล้ายๆ กันแต่ Quarter Cask จะเผ็ดกว่าและกลิ่นหลากหลายกระจัดกระจาย โดยจุดเด่นผมคิดว่าเป็นความเผ็ดแบบเหล้าสดใหม่และกลิ่นคล้ายยางไหม้ที่ติดปลายนวมมานิดหน่อยซึ่งกลิ่นประเภทนี้มักจะเจอได้ในพวกเหล้าสายควันหนักๆ อย่าง Ardbeg หากเพื่อนๆ ยังไม่แน่ใจว่าควันหนักๆ จะถูกใจหรือไม่ตัวนี้น่าจะเป็นตัวเริ่มต้นที่ดีครับ

2 ความคิดเห็น:

  1. พีครับ รบกวนถามว่า มี test THE Singleton 12 years of Glen Ord หรือเปล่าครับ หาไม่เจอ ขอบคุณครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. เคยรีวิวไว้นานแล้วที่ montfort27.com ครับ คงไม่ได้เอามาลงที่ blog. ลองตามไปอ่านตามลิงก์นี้ครับ http://www.montfort27.com/forum/index.php?topic=1504.0

      ลบ