พวกผมแค่ชมชอบในรสชาติของสุรา เรื่องราวที่เขียน เริ่มต้นจากความชอบและความสนใจ ที่นำไปสู่การค้นหา
เมื่อได้รับรู้ และทดลองด้วยตัวเองแล้วก็อยากแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ และคนอื่นๆ ที่สนใจในเรื่องเดียวกันครับ

ข้อคิดเห็นที่ให้เกี่ยวกับเรื่องการร่ำสุราในแต่ละประเภท เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ที่ได้มาจากการลองของด้วยตัวเอง
ที่แค่อยากรู้ และอยากลองตามประสาครับ ผิดถูกประการใดก็คงไม่สามารถรับรองได้ครับ ขอน้อมรับคำแนะนำ และติชมทุกประการครับ


*** หมายเหตุ *** สงวนสิทธิ์สำหรับการอ่านและนำไปใช้ประกอบบทความเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้กัน และไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ทุกอย่างครับ

วันพุธที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2554

Glengoyne The Real Taste of Malt

สวัสดีครับ มิตรรักชมรมมักเหล้าคลับ ทุกท่าน ห่างหายไปนานครับ กับรีวิวลิ้นบ้านๆ
เนื่องด้วยภาระอิดมากมายครับ พักนี้งานเข้าค่อนข้างเยอะ ประกอบกับเก็บของเก่ายังไม่หมด ของใหม่ก็ค่อยจะมีเข้าบ้านเลยครับ
ตอนแรกว่าจะรอต้นเดือนหน้าให้ได้รับ Dewar's 18 Yo ที่รอคอยก่อน แต่นานไปครับ
ประกอบกับเหล้าที่แบ่งไปบ้านนายใหญ่งวดใกล้หมดแล้ว ที่เปิดค้างไว้ก็เป็นแนวควันล้วนๆ เกรงว่าท่านจะรับไม่ไหว
เลยลัดคิวจัด Glengoyne 17 Yo ขวดนี้ที่เพิ่งจัดมาจากริมปิง เมื่อสองอาทิตย์ก่อนดีกว่าครับ
สำหรับเจ้านี่อ่านออกเสียงยากอีกแล้วครับ พอผลิกไปข้างหลังกล่องก็อ่านได้ว่า "Glen Guin" ครับ
แปลแบบอังกฤษเป็นอังกฤษได้ว่า "Glen of the wild geese" ประมาณภาษาไทยเราก็คือ "หุบเขาห่านป่า" นั่นแหละครับ



เช่นเคยครับ ตามประสาลิ้นบ้านๆ จมูกมั่วๆ และความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ
ไม่รับประกันความถูกต้องนะครับ ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยล่วงหน้าไว้ก่อนเลยนะครับ 

เริ่มกันทีสีเหมือนทุกครั้ง สำหรับเจ้า Glengoyne ขวดนี้สีค่อนข้างเข้มออกแนวทองอมแดงๆ ด้วยอายุ และการบ่ม
สำหรับ malt ที่นำมาใช้ทำ Glengoyne ขวดนี้อ้างว่าเป็น malt ที่ได้จากการตากแห้ง ไม่ผ่านการอบทำให้ไม่มีกลิ่นของ peat
น่าจะเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบควัน และกลิ่น peat นะครับ เพราะระหว่างที่รินออกมาผมว่ามันหอมสดชื่น เจืออโรม่าดีครับ
และกลิ่น Lกฮ แทบไม่มีเลยก็ว่าได้ครับ เนียนเชียวครับ



ในส่วนของขานั้นจัดว่าใหญ่และหนัก ไหลช้ามากๆ ครับ
ขนาดวนแก้วแล้ววางตั้งไว้ต้องรอพักใหญ่ๆ ขาถึงจะค่อยๆ ไหลลงมาครับ

ด้านกลิ่นนั้น แทบไม่มีกลิ่นของ Lกฮ มากระทบให้แสบจมูกเลยครับ กลิ่นของโอ๊ก และ Malt ชัดเจนมากครับ
เจือด้วยกลิ่นอ่อนๆ ของผลไม้รสเปรี้ยว (citrus) อีกกลิ่นที่เด่นก็เป็น cinnamon กับน้ำผึ้งครับ
น่าจะเหมาะกับคนที่ชอบแนวหวานๆ ครับ รวมๆ แล้วผมว่า กลิ่นมันให้ความสดชื่นดีครับ

คราวนี้ก็มาว่ากันที่รสชาติบ้างครับ


จิบแรกที่เข้าไป ดื่มชากันดีก่า นุ่มละมุ่นกำลังดีครับ กลิ่นเหมือนพวกผลไม้ตากแห้งในที่ร่ม มีรสหวานติดปลายลิ้น
มันเหมือนกับมีความแห้ง แต่ก็ไม่แห้งจนรู้สึกว่าปากแห้ง แฝงความฉ่ำอยู่ในที
ทิ้งกลิ่นเหมือน almond อบแห้ง กับ macadamia มันๆ เอาไว้ ประทับใจดีครับ เจ้านี่ชักวางไม่ลงแล้วสิครับ
พอดีผม มี macadamia อบเกลือติดไว้ในตู้เย็น เอามาแกล้ม พบว่าเข้ากันได้ดีเชียวครับ



ด้าน After นั้นจัดว่ากำลังดีครับ ยาวพอประมาณ ทิ้งความฉ่ำปนแห้งไว้กำลังดี
ยิ่งถ้าได้คู่กับ macadamia นี่แหล่มเชียวครับ ได้ความมัน เพิ่มมาด้วย
ใครไม่ชอบควันเจ้านี้เป็นคำตอบที่ดีได้เลยครับ ติดอยู่ที่ราคาอาจสูงไปนิดครับ แต่รับรองได้ว่าไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

สำหรับเจ้า Glengoyne ขวดนี้แนะนำว่าถ้าไม่เกี่ยงเรื่องค่าตัวก็น่าเป็นเหล้าสามัญประจำบ้านได้ดีเชียวครับ
เหมาะในวันว่างๆ อยากจิบเบาๆ แกล้ม macadamia หรือตระกูลถั่วตัวอื่นๆ ก็ไม่ว่ากันครับ 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น