พวกผมแค่ชมชอบในรสชาติของสุรา เรื่องราวที่เขียน เริ่มต้นจากความชอบและความสนใจ ที่นำไปสู่การค้นหา
เมื่อได้รับรู้ และทดลองด้วยตัวเองแล้วก็อยากแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ และคนอื่นๆ ที่สนใจในเรื่องเดียวกันครับ

ข้อคิดเห็นที่ให้เกี่ยวกับเรื่องการร่ำสุราในแต่ละประเภท เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ที่ได้มาจากการลองของด้วยตัวเอง
ที่แค่อยากรู้ และอยากลองตามประสาครับ ผิดถูกประการใดก็คงไม่สามารถรับรองได้ครับ ขอน้อมรับคำแนะนำ และติชมทุกประการครับ


*** หมายเหตุ *** สงวนสิทธิ์สำหรับการอ่านและนำไปใช้ประกอบบทความเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้กัน และไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ทุกอย่างครับ

วันอังคารที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2554

Ballantine’s 12 year olds Pure Malt 40%


จากที่เคยเล่าถึงยี่ห้อ Ballantine’s กันมาบ้างแล้วก็ขอพูดถึงเจ้านี่แบบเนื้อๆ เลยหล่ะกันครับ Pure Malt ขวดนี้น่าจะเป็นการต่อยอดสู่ตลาดกลุ่ม Malt Lover และกลุ่มนักดื่มที่ต้องการพัฒนารสชาติให้เข้าถึง Malt มากขึ้น ซึ่งหน้าตาของขวดนั้นดูดีกว่าตัว Blend ของยี่ห้อนี้พอสมควรบวกกับราคาที่เอาเป็นว่าจ่ายแบงค์พันได้ตังค์ทอนสำหรับเหล้า Malt เกรด 12 ปีก็ถือว่าน่าลองมิใช่เล่น โดยเจ้านี่อ้างว่าใช้ Malt Whisky จาก 3 แหล่งหลักๆ ใน Scott ได้แก่ Highland, Spyside และ Islay เห็นแล้วยิ่งน่าสนใจเพราะแต่ละแหล่งมีเอกลักษณ์ที่ต่างกันถ้ามาเอาชนกันแล้วจะเป็นอย่างไรยิ่งน่าคิดหาคำตอบ เพราะงั้นไม่รอช้าเข้าสู่การชิมกันเลยครับ


Appearance: สีทองไปทางเหลือ ขาใหญ่ไหลช้า
Aroma: กลิ่นวนิลา อบเชย ช๊อกโกแล็ต รวมๆเป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกหวาน


Taste: รสเผ็ดแอลกอฮอร์นิดหน่อย(อาการburnน้อย) มีกลิ่นหอมหวานของวนิลา มอล์และแอบซ่อนกลิ่นควันไว้เล็กน้อยติดปลายนวม
With Water: รสหวานยังไม่แสดงตัว แต่กลิ่นตอนTeste เปลี่ยนไป คลายกลิ่นพวกคาลาเมล และมีกลิ่นควันจางๆ (ประมาณคาลาเมลกำลังไหม้) ปริมาณกลิ่นไม่มากเท่าไหร่


Finish: ติดมันแบบ butter พอสมควรและทิ้งกลิ่นควันอ่อนๆ ในปาก แต่กลิ่นที่ตีกลับขึ้นมาน้อยมาก จนแทบจะไม่มี


สรุป: เจ้าหมอนี่ตอนทดลองแบบปกติถือว่ายังไม่ประทับใจเท่าที่ควรเพราะถ้าเทียบกับ JW Black แล้วผมยังเอียงไปทาง JW Black มากกว่าเพราะ body ของ Black ให้ความรู้สึกว่ามาเต็มกว่า แถมยังมี After Taste ที่น่าประทับใจกว่า แต่ถ้าลองแบบ on the rock แล้ว Ballantine’s ขวดนี้จะเด่นกว่ามากความเย็นของน้ำแข็งสามารถดึงความหอมหวานออกมาได้อีกขั้น ซึ่งทุกครั้งที่ยกแก้วขึ้นจิบจะได้รสชาติเปลี่ยนไป ทำให้ต้องยกขึ้นมาบ่อยๆ แต่น่าเสียดายที่ After Taste น้อยไปหน่อย ทำให้ความประทับใจหลังการดื่มน้อยตามไปด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น