พวกผมแค่ชมชอบในรสชาติของสุรา เรื่องราวที่เขียน เริ่มต้นจากความชอบและความสนใจ ที่นำไปสู่การค้นหา
เมื่อได้รับรู้ และทดลองด้วยตัวเองแล้วก็อยากแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ และคนอื่นๆ ที่สนใจในเรื่องเดียวกันครับ

ข้อคิดเห็นที่ให้เกี่ยวกับเรื่องการร่ำสุราในแต่ละประเภท เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ที่ได้มาจากการลองของด้วยตัวเอง
ที่แค่อยากรู้ และอยากลองตามประสาครับ ผิดถูกประการใดก็คงไม่สามารถรับรองได้ครับ ขอน้อมรับคำแนะนำ และติชมทุกประการครับ


*** หมายเหตุ *** สงวนสิทธิ์สำหรับการอ่านและนำไปใช้ประกอบบทความเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้กัน และไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ทุกอย่างครับ

วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557

Johnnie Walker Explorers' Club the Gold Route 40%



สวัสดีเพื่อนๆ สมาชิกวันนี้สิ้นเดือนทำงานเสร็จเร็วว่างๆ คันๆ เลยมานั่งเขียนรีวิวให้อ่านกันเล่นๆ หล่ะกัน



สำหรับวิสกี้ที่จะมารีวิวให้ฟังวันนี้แค่เห็นขวดก็คงจะรู้ได้ทันทีว่าคือลุง Johnnie Walker วิสกี้ที่อยู่คู่เมืองไทยและมียอดขายระดับบนๆ มาช้านาน สำหรับรุ่นที่เอามารีวิววันนี้อยู่ในชุด Explorers' Club Collection ที่เอาออกมาตีตลาดเหล้าสำหรับนักเดินทางหรือพูดง่ายๆ ก็คือขายตาม Duty Free ซึ่งขวดนี้เป็นรุ่น The Gold Route หรือเส้นทางสีทองถือเป็นลำดับที่สองในชุด ส่วนเรื่องแรงบรรดาลใจในการออกแบบและรายละเอียดอื่นๆ ลองไปหาอ่านกันเองเพราะผมขี้เกียจอ่าน(ใครอ่านแล้วมาเล่าสู่กันฟังก็ได้นะ) ขอรีวิวแต่รสชาติหล่ะกันนะ

Appearance: สีส้มทอง และมีขาเล็ก-กลางยาว ไหลค่อนข้างเร็ว แต่ยังสวย

Aroma: กลิ่นควันจางๆ มีผลไม้เปรี้ยวพวกส้ม มะนาว คลุกๆ มากับวนิลา

Taste: เผ็ดนำ หวานตามมาห่างๆ กลิ่นควันคล้ายน้ำมันเครื่องยางไหม้อ่อนๆ ไม่ดุร้าย ผลไม้ลูกแพร น้ำผึ้งนิดหน่อย

With Water: หวานชัดขึ้น เผ็ดอ่อนลงมาก จับกลิ่นยางไหม้ได้ชัดขึ้น วนิลา น้ำผึ้งตามมาห่างๆ สัมผัสมันๆ

Finish: ทิ้งความมัน รสเผ็ดไว้ที่ริมฝีปากและรสขมที่คอยาวนาน กลิ่นวนิลามีมาอวลๆ หายไปเร็วพอสมควร

สรุป: เป็นรสชาติค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับค่าย Johnnie Walker ที่ทำควันได้เด่นพอสมควรเหมาะกับคนที่เริ่มสนใจวิสกี้ได้มีโอกาสได้ลองวิสกี้ที่มีกลิ่นควันระดับยางไหม้ โดยใส่มาให้ชิมกันแบบบางๆ(จิ๊ดนึง) บอร์ดี้ถือว่าทำได้ดี ติดตรงที่กลิ่นจบไวไปนิดและเผ็ดเกินไปสำหรับเหล้าที่มีกลิ่นแค่นี้ ซึ่งผมมักจะพูดเสมอว่าเหล้าไม่จำเป็นต้องนุ่ม รสเผ็ดมาก็ได้แต่ช่วยอัดกลิ่นลงมาด้วยให้มันไปทางเดียวกัน ตัวนี้น่าจะเหมาะกับผู้ที่เริ่มต้นแบบยังลังเลกับสายควันที่แบบไม่ชอบก็ยังกินจนหมดขวดได้ ส่วนใครที่มองหาควันแบบ Hardcore กว่านี้ในค่ายเดียวกันหันไปหา Lagavulin, Talisker, Caol Ila ดีกว่าครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น