พวกผมแค่ชมชอบในรสชาติของสุรา เรื่องราวที่เขียน เริ่มต้นจากความชอบและความสนใจ ที่นำไปสู่การค้นหา
เมื่อได้รับรู้ และทดลองด้วยตัวเองแล้วก็อยากแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ และคนอื่นๆ ที่สนใจในเรื่องเดียวกันครับ

ข้อคิดเห็นที่ให้เกี่ยวกับเรื่องการร่ำสุราในแต่ละประเภท เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ที่ได้มาจากการลองของด้วยตัวเอง
ที่แค่อยากรู้ และอยากลองตามประสาครับ ผิดถูกประการใดก็คงไม่สามารถรับรองได้ครับ ขอน้อมรับคำแนะนำ และติชมทุกประการครับ


*** หมายเหตุ *** สงวนสิทธิ์สำหรับการอ่านและนำไปใช้ประกอบบทความเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้กัน และไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ทุกอย่างครับ

วันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2556

พาเที่ยวโรงกลั่น Nikka Yoichi@Hokkaida

สวัสดีครับเพื่อนๆ เนื่องจากเดือนที่แล้วผมไม่ได้เขียนรีวิวเดือนนี้เลยขอทบยอดเป็นรีวิวโรงก ลั่นหล่ะกันนะครับ โรงกลั่นที่ผมจะพาไปเที่ยวนี้ชื่อ Nikka ที่เมือง Yoichi Hokkaido ครับ การเดินทางมาเที่ยวที่นี่ก็ไม่ยากครับ(แต่ต้องมาให้ถึง Hokkaido ประเทศญี่ปุ่นก่อนนะครับ) สามารถนั่งรถไฟ JR ใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชม.จากสถานี Sapporo มาลงสถานี Yoichi ได้เลยออกมาจากหน้าสถานีเดินตรงไปประมาณ 200เมตรก็ถึงครับ ทางโรงกลั่นเปิดให้เที่ยวชมตั้งแต่เวลา 9.00น. ถึง 17.00น.ครับ โดยมีแบบเดินเที่ยวเองและเป็นคณะ ซึ่งแบบคณะจะต้องจองและมีบรรยายเฉพาะภาษาญี่ปุ่นเท่านั้นครับ รายละเอียดอื่นสามารถอ่านจาก Link: http://www.nikka.com/eng/distilleries/ ครับ

สถานีรถไฟ Yoichi

โรงกลั่น Nikka ก่อตั้งโดยคุณ  Masataka Taketsuru ซึ่งท่านไปเรียนศาสษร์วิสกี้ที่ University of Glasgow ประเทศสก๊อตแลนด์ และถือเป็นคนญี่ปุ่นคนแรกที่เรียนด้านการทำวิสกี้ คุณ Masataka ใช้เวลาเดินทางเก็บเกี่ยวประสบการณ์และศึกษาวิสกี้อยู่ในยุโรปร่วมสิบปีและ กลับมาที่ประเทศญี่ปุ่น สร้างโรงกลั่นวิสกี้ Nikka ในปี ค.ศ.1934 ซึ่งถือว่าเป็นโรงกลั่นที่เก่าแก่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่นลองจาก Yamazaki โดยเลือกเมือง Yoichi ซึ่งอยู่ติดทะเลเป็นเมืองท่า มีแหล่งน้ำคุณภาพ และมีสภาวะอากาศใกล้เคียงเขต Highland ของประเทศสก๊อตแลนด์ เพื่อสร้างสรรค์วิสกี้คุณภาพ


การเดินทางของผมในครั้งนี้น่าเสียดายที่เวลาค่อนข้างน้อยเพราะสภาพอากาศทำ ให้ผมไปถึงโรงกลั่นเวลา 16.30น. อีก 30นาทีปิด แต่ไม่เป็นไรลุยเท่าที่ได้หล่ะกันเดินเข้ามาถึงประตูด้านหน้าพนักงานต้อนรับ ก็ยื่นแผนผังในการเดินชมเที่ยวให้และชี้เป้าว่าอย่าลืมไปเทสวิสกี้ด้วยนะ ผมก็ไม่รอช้าเดินจ่ำไปอย่างเร็ว
ด้านหน้าทางเข้าโรงกลั่น

อ่านไม่ออกอะ

ภายในโรงกลั่นเมื่อพ้นประตูทางเข้า

มาถึงห้องแรกทางซ้ายมือ เป็นห้องกลั่นซึ่งมีหม้อกลั่นแบบ Normal pot still ตั้งเรียงรายอยู่ครับ โดยในห้องได้มีการจัดแสดงภาพการกลั่น และตัวอย่างพื้นผิวของหม้อกลั่นซึ่งเราจะเห็นความหนาของหม้อทองแดงได้อย่าง ชัดเจน

หม้อกลั่นตั้งเรียงราย

ตัดให้ดูความหนาเนื้อทองแดงของหม้อกลั่น
เดินออกมาจากห้องกลั่นทางซ้ายมือจะพบห้องจัดแสดงการทำถังไม้ครับ ซึ่งที่นี่มีภาพขั้นตอนการทำ(ภาษาญี่ปุ่น...อ่านไม่ออก) พร้อมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งที่ Nikka ก็ใช้ถังซ้ำเช่นเดียวกับสก๊อตวิสกี้ ผมใช้เวลาในห้องนี้ไม่ค่อยนานเท่าไหร่
 

ภายในห้องจัดแสดงถัง

เครื่องมือต่างๆ


ลองอ่านกันดูนะ ผมอ่านไม่ออกจริงๆ
เดินออกมาจะพบห้องจัดแสดง ทางขวาจะพบทางเข้าซึ่งแบบออกเป็น 2อาคาร อาคารแรกทางขวามือทางโรงกลั่นไม่อนุญาตให้เข้า แต่จากกลิ่นและอุณหภูมิน่าจะเป็นห้องทำ Mash โดย Mash ที่ได้จะถูกส่งไปอาคารทางซ้ายมือเป็นห้องหมักเพื่อให้ได้ Wash (อยากรู้ว่า Mash และ Wash คืออะไรลองอ่านที่ผมเคยเขียนเมื่อครั้งไปIslay ได้ครับ) ซึ่งในอาคารที่ 2 นี้เราจะเห็นถังหมักซึ่งทางโรงกลั่นได้จัดแสดงขั้นตอนต่างๆ ผ่านจอ LCD และมีตัวอย่างให้เราลองสังเกตุกันดูครับ


น่าจะเป็นอาคารทำ Mash มีถังสำหรับใส่วัดถุดิบ

ถังแสตนเลสขนาดใหญ่สำหรับหมัก Wash

สีของ Wash ที่ได้

เมื่อออกมาจากโซนอาคารจัดแสดงแล้วจะพบกับรูปปั้นของคุณ Masataka Taketsuru ซึ่งในบริเวณนี้รอบๆ จะเป็นสวนมีต้นไม้ใหญ่อากาศร่มรื่นมากๆ และถ้าสังเกตุดีๆ จะมีโรงบ่มวิสกี้ตั้งอยู่มากมาย โดยใรงบ่มเหล่านี้จะต้องอยู่ในที่มืดและมีอุณหภูมิที่พอเหมาะเพื่อให้ถังไม้ ค่อยๆ ช่วยสร้างสรรค์วิสกี้ที่มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของ Nikka


รูปปั้นของคุณ Masataka Taketsuru

ห้องบ่มหลายสิบห้องเรียงราย

บรรยากาศภายในมืดสนิทมีกลิ่นถังไม้ แอลกอฮอล์ และราอับๆ

เดินมาได้ซักพักจะพบห้องทางขวามือซึ่งเป็นที่ตั้งของ Whisky Museum และ Whisky Club มีการจัดแสดงที่เล่าถึงประวัติของโรงกลั่นและประวัติของคุณ Masataka Taketsuru พร้อมทั้งรางวัลต่างๆ ที่ Nikka เคยได้รับอย่างมากมาย และในส่วนของวิสกี้คลับคือเราสามารถเลือกซื้อเหล้าเพื่อดื่มได้หลายตัวมากๆ ทั้งของทางโรงกลั่นเองและวิสกี้จากต่างประเทศในราคาที่ถือว่าถูกมากที เดียว...เสียดายเวลาผมน้อยมากจึงไม่สามารถจัดได้


ทางเข้า Museum

การจัดวางเล่าเรื่องราวได้มีมากครับ



จัดแสดงได้ดีมากครับ

แต่ละตู้มีแต่ของหายากๆ

เพิ่มคำอธิบายภาพ

ได้รับการยอมรับจากสากล

Vintage รุ่นหายากๆ ทั้งนั้น

บรรยากาศ Whisky Club อยากอยู่ทั้งวันเลย

เมื่อเดินออกมาจาก Whisky Museum ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องที่ชื่อว่า Single Barrel ซึ่งห้องนี้จะนำวิสกี้ที่เป็น Single Cask ของทางโรงกลั่นออกมาโชว์และขาย คำว่า Single Cask ก็แปลตรงตัวครับคือเหล้าที่มาจากถังเดียวไม่มีการผสมกับถังอื่นซึ่งจะหาซื้อ ได้แค่ที่นี่เท่านั้นครับ

Single Cask ทั้งนั้นเลย อยากได้หมดเลยครับ แพ้ทางจริงๆ

เมื่อออกจากห้อง Single Barrel แล้วผมก็มุ่งตรงไปยังจุดที่พนักงานต้อนรับบอกคือ อาคารที่จะมี Whisky Testing ครับซึ่งส่วนที่ทำ Testing นั้นอยู่บนชั้น 2 ของอาคารมีทั้งวิสกี้และบรั่นดี(นอกจากวิสกี้แล้วเค้ายังทำบรั่นดีด้วยนะ) ให้ชิมหลายตัวครับ แต่จะเป็นตัวมาตรฐานของทางโรงกลั่นครับ

ห้องทำ Whisky Testing อยู่บนชั้น 2 ของอาคารทางขวา ส่วนชั้นล่างเป็นร้านอาหาร และอาคารด้านในคือที่ขายของ

ซึ่งที่ผมเลือกชิมเป็น Nikka Whisky 17 ปี รสชาติหวานนิดๆ เป็นแนวหอมสดชื่นกลิ่นน้ำผึ้ง ผลไม้ฉ่ำนิดๆ ดื่มง่ายมากๆ

Nikka Whisky 17 ปี ตัวนี้ที่ญี่ปุ่นราคาพันกว่าบาทถือว่า OK เลยครับ
ส่วน ตัวต่อมาเป็น Nikka Yoichi Single Malt 10ปี ตัวนี้รสชาติแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดกว่าในเรื่องของความนุ่มนวลและกลิ่นคลาเมล วนิลา โอ๊ค อบเชยชัดเจนครับจบไปแบบน่าประทับใจ ถ้าให้ผมเลือกซื้อตัว Nikka Yoichi Single Malt 10ปี ถือว่าน่าสนใจทีเดียว

ตัวนี้รางวัลใหญ่ๆ รับประกันว่าไม่แพ้สก๊อตวิสกี้แน่นอน เพราะเคยได้รางวัลแบบหักหน้ากันมาแล้ว ราคาก็พันต้นๆ เช่นกัน
หลังจากออกจากห้อง Testing ลงมาเยื่องไปเล็กน้อยเป็นร้านขายของที่ระลึกซึ่งมีทั้งของดีของเมืองและของ ดีของโรงกลั่นครับ ผมอยากจะใช้เวลาเลือกดูนานซักหน่อยแต่เวลาก็แทบจะหมดอยู่แล้วตัวผมเลือก Single Cask ขวดเล็กมา 1 ขวด เนื่องจากผมแพ้อยู่ 2 คำในการซื้อวิสกี้ครับคือ Single Cask และ Peat Smoke ซึ่งขวดนี้มีทั้ง 2 คำผมก็ต้องแพ้ทางไปตามระเบียบครับ

 

แพ้ทางจริงๆ ขนาดอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกซักตัวเจอภาษาอังกฤษไม่กี่คำซื้อเลย

การมาเยือนโรงกลั่น Nikka Yoichi ถือว่าสนุกมากครับเสียดายเรื่องเดียวคือเวลาของผมน้อยเกินไป ไม่อย่างนั้นคงได้อยู่ซัก 3ชม. โรงกลั่นนี้ผมประทับใจมากครับเพราะมีขนาดใหญ่พื้นที่กว้างขวางกว่าที่ Islay อย่างมากเดินได้ทั่วอย่างกับสวนสาธารณะ การวางตำแหน่งของอาคารต่างๆ ถือว่าเยี่ยมเลยครับ เป็นโรงกลั่นที่ทันสมัยทีเดียว และยังมีให้ชิมฟรีอีกเอาไปเลย 9คะแนน ที่ตกไป 1คะแนนคือมีภาษาอังกฤษน้อยไปหน่อย ถ้าเพื่อนๆ สนใจอยากมาเที่ยวสามารถสอบถามผมมาได้ครับ

ลาด้วยภาพหม้อกลั่นที่เคยใช้ในอดีตที่อยู่ในสวนด้านหลัง บรรยากาศดีมากๆ ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น