พวกผมแค่ชมชอบในรสชาติของสุรา เรื่องราวที่เขียน เริ่มต้นจากความชอบและความสนใจ ที่นำไปสู่การค้นหา
เมื่อได้รับรู้ และทดลองด้วยตัวเองแล้วก็อยากแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ และคนอื่นๆ ที่สนใจในเรื่องเดียวกันครับ

ข้อคิดเห็นที่ให้เกี่ยวกับเรื่องการร่ำสุราในแต่ละประเภท เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ที่ได้มาจากการลองของด้วยตัวเอง
ที่แค่อยากรู้ และอยากลองตามประสาครับ ผิดถูกประการใดก็คงไม่สามารถรับรองได้ครับ ขอน้อมรับคำแนะนำ และติชมทุกประการครับ


*** หมายเหตุ *** สงวนสิทธิ์สำหรับการอ่านและนำไปใช้ประกอบบทความเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้กัน และไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ทุกอย่างครับ

วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Laphroaig 10 year old 43%


Laphroaig ตัวนี้เป็น Whisky ตัวหนึ่งที่ผมไม่ต้องตัดสินใจนานในการเปิดเพียงแค่รอเวลาที่เหมาะๆ เท่านั้นเอง เพราะเกรียติศัพท์ที่ได้ยินมามากจนของมันร้อนอยากลองว่าจะเป็นจริงอย่างคำกล่าวเล่าอ้างหรือไม่

โรงกลั่นนี้ตั้งอยู่บน Islay ริมทะเลทางฝั่งตะวันออกของเกาะใกล้กับโรงกลั่นที่คุ้นหูอย่าง Lagavulin และ Ardbeg เพียงไม่ถึง 5 กิโลเมตร จุดเด่นของโรงกลั่นนี้คือเป็นโรงกลั่นเพียงไม่กี่โรงที่มีการทำ Maltingเอง และใช้ Peat ที่มีกลิ่นดินทะเล อีกทั้งยังได้รับอิทธิพลจากลมทะเลสร้างกลิ่นในการหมักบ่มทำให้เป็น whisky ที่มีเอกลักษณะโดดเด่นเฉพาะตัว

Appearance: สีทองใส ขาเล็กยาว

Aroma: กลิ่นยานำ(เด็ตตอล์ กลิ่นยาโรงพยาบาล กลิ่นสบู่) กลิ่นควันตามแรงแต่ไม่แน่นลักษณะของกลิ่นคล้ายขี้เถ้า

Taste: เค็มนำหวานตาม กลิ่นตรงข้ามกับตอนดมคือควันเด่นแล้วตามด้วยกลิ่นยา

With Water: จับรสเค็มได้น้อยลงจับหวานได้ดีขึ้นแทรกด้วยกลิ่นเหม็นเขียวคล้ายใบไม้สด และจบด้วยกลิ่นควัน

Finish: ทิ้งรสหวานอ่อนๆ ไว้ที่ปากและลำคอ และค่อยๆ มีกลิ่นควันและกลิ่นยาย้อนกลับขึ้นมาตามลำดับยาวกำลังดี

สรุป: Laphroaig 10 ปีตัวนี้มีกลิ่นที่หลากหลายแต่ไม่ซับซ้อน คือกลิ่นทุกตัวค่อนข้างเด่นวิ่งมาเป็นลำดับไม่พรวดมาทีเดียวให้งงเล่น ดื่มได้แบบจิบๆ ได้อารมณ์ร่วมไปกับกลิ่นที่แปลกใหม่ แต่ถ้าดื่มแบบยาวๆ คงไม่ไหวอาจจะเบื่อเอาได้ง่ายๆ ถ้าใครสนใจ SM จริงๆ Laphroaig ตัวนี้ห้ามพลาดเด็ดขาดทั้งคุณภาพ ราคาและสามารถจัดหาได้ไม่ยากจึงควรที่จะลิ้มลองให้เป็นประสบการณ์ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น