พวกผมแค่ชมชอบในรสชาติของสุรา เรื่องราวที่เขียน เริ่มต้นจากความชอบและความสนใจ ที่นำไปสู่การค้นหา
เมื่อได้รับรู้ และทดลองด้วยตัวเองแล้วก็อยากแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ และคนอื่นๆ ที่สนใจในเรื่องเดียวกันครับ

ข้อคิดเห็นที่ให้เกี่ยวกับเรื่องการร่ำสุราในแต่ละประเภท เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ที่ได้มาจากการลองของด้วยตัวเอง
ที่แค่อยากรู้ และอยากลองตามประสาครับ ผิดถูกประการใดก็คงไม่สามารถรับรองได้ครับ ขอน้อมรับคำแนะนำ และติชมทุกประการครับ


*** หมายเหตุ *** สงวนสิทธิ์สำหรับการอ่านและนำไปใช้ประกอบบทความเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้กัน และไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ทุกอย่างครับ

วันพุธที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2558

Ardbeg TEN 46%



หลังจากผ่านพ้นปีเก่าต้อนรับปี 2558 ปีนี้ก็ขอให้ทุกๆ ท่านมีความสุข ความเจริญ และที่สำคัญสุขภาพแข็งแรงครับ

ช่วงปลายปีค่อมต้นปีผมจะยุ่งมากๆ ด้วยเรื่องงานและธุระต่างๆ เลยไม่ได้เขียนรีวิวให้เพื่อนๆ อ่านกันแต่ก็ไม่ได้หายไปไหนครับ ยังคงนั่งร่ำสุราอยู่เช่นเคย ในฐานะที่ผมเป็นคนชอบวิสกี้ที่มีกลิ่นควันรีวิวแรกของปีนี้ผมขอเจิมด้วยเหล้าแห่งควันนามว่า Ardbeg TEN จากเกาะ Islay เช่นเคย สำหรับประวัติคร่าวๆ ของโรงกลั่น Ardbeg ลองย้อนไปอ่านรีวิวเกาะ Islay ที่ผมเคยเขียนไว้ได้ครับ

มาว่ากันด้วยเรื่องของเจ้า TEN ขวดนี้ดีกว่า Ardbeg TEN มีอายุบ่ม 10ปี จะถือว่าเป็นตัวหลักในการทำการตลาดของค่ายนี้เลยก็ว่าได้ ถังที่ใช้บ่มหลักๆ น่าจะเป็น ex-bourbon บรรจุมาในขวดสีเขียวเข้มฉลากสีดำดูขรึม อัดมาแบบ Non-chilled filter 46% แอลกอฮอล์ จากข้อมูลมีระดับความควันถึง 55ppm ถือว่าสูงมากหากเทียบกับเหล้าที่เราคุ้นเคยอย่าง JW Black ที่อยู่ในระดับไม่ถึง 12ppm


Appearance: สีทองเหลืองใสมาก (pale gold) ขาเล็กยาวไหลช้า

Aroma: กลิ่นควันน้ำมันเครื่อง กาแฟ หมูย่าง ชอคโกแล็ต เนยไหม้

Taste: สัมผัสเผ็ดกลางๆ หวานนำ กลิ่นคลาเมลไหม้ น้ำผึ้งไหม้ อบเชย

With Water: เผ็ดน้อยลงกลิ่นควันยังคงเด่น บอร์ดี้ยังถือว่าแน่น

Finish: กลิ่นควัน ถ่านไม้ น้ำมันก๊าซ บอร์ดี้ค่อยๆ จาง จบไปแบบยาวพอสมควร

สรุป: สำนักนี้ผมชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเป็นโรงกลั่นที่มีเรื่องราวมากมาย แถมวิสกี้ตัวมาตราฐานอย่าง Ardbeg TEN มีทั้งกลิ่นควันพร้อมความหวานมันทำให้ได้น้ำหนักของรสชาติและกลิ่นที่หนักแน่นชัดเจนเป็นเอกลักษณ์เหมาะกับนักดื่มวิสกี้ที่เริ่มเข้าสู่เส้นทาง Hardcore และข่าวดียิ่งกว่าไม่แน่ว่าจะมี Ardbeg เข้ามาให้ลองกันในบ้านเราอีก 2 รุ่นแต่เป็นรุ่นไหนนั้นไว้แน่ชัดแล้วจะมาเล่าให้ฟัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น