พวกผมแค่ชมชอบในรสชาติของสุรา เรื่องราวที่เขียน เริ่มต้นจากความชอบและความสนใจ ที่นำไปสู่การค้นหา
เมื่อได้รับรู้ และทดลองด้วยตัวเองแล้วก็อยากแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ และคนอื่นๆ ที่สนใจในเรื่องเดียวกันครับ

ข้อคิดเห็นที่ให้เกี่ยวกับเรื่องการร่ำสุราในแต่ละประเภท เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ที่ได้มาจากการลองของด้วยตัวเอง
ที่แค่อยากรู้ และอยากลองตามประสาครับ ผิดถูกประการใดก็คงไม่สามารถรับรองได้ครับ ขอน้อมรับคำแนะนำ และติชมทุกประการครับ


*** หมายเหตุ *** สงวนสิทธิ์สำหรับการอ่านและนำไปใช้ประกอบบทความเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้กัน และไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ทุกอย่างครับ

วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2555

Glenmorangie Traditional 100 Proof

Glenmorangie Traditional 100 Proof ขวดนี้จัดเป็นเหล้าดีที่ควรหามาลองเป็นอย่างยิ่งครับ
ชื่อว่าเป็น 100 Proof หรือน้องแอลเค้า 57.2% ก็จริงแต่เมื่อรินออกมานั้นกลิ่นตัวน้องแอลแทบจะหาไม่เจอ
เมื่อรินออกมาจากขวดสีนั้นค่อนไปทางทองใสๆ ขนาดว่าตัว Original ที่ว่าใสๆ แล้วเจ้านี่กับใสกว่าเยอะครับ
วนแก้วเพื่อดูขากลับพบว่าขานั้นใหญ่และหนักกว่าที่คิดครับ ค้างอยู่ค่อนข้างนานกว่าจะไหลกลับลงมา 
ยอมรับว่าสุดยอดครับ ไม่คิดว่าจะทำได้ดีขนาดนี้ครับ 
กลิ่นอโรมาฟุ้งๆ ของเหล้าจากถิ่น Highland เจือด้วยกลิ่นวนิลา ส้ม และซิกตัสที่เป็นเอกลักษณ์ของเหล้าตระกูลนี้มีอยู่อย่างครบถ้วนเชียวครับ


เข้าเรื่องกันที่รสชาติเลยดีกว่าครับจริงๆ เจ้า Traditional ขวดนี้ผมจัดไปเปิดตั้งแต่วันตรุษจีนที่ผ่านมากับญาติแล้วล่ะครับ
เอาไปลองชนกับ Remy XO ญาติหลายคนเลือกเจ้าขวดนี้มากกว่าเลยล่ะครับ 

ว่าแล้วเราก็มาเล่าสู่กันฟังตามประสาลิ้นบ้านๆ แบบไม่รับประกันความถูกต้องกันต่อดีกว่าครับ
Burn นิดๆ ตามประสา Alc ที่ 57.2 แต่ลื่นใช่เล่นเชียวครับ กลิ่นหอมฟุ้งๆ ตามสไตล์ของเหล้าตระกูลนี้มีอยู่ครบถ้วนสำหรับแบบ neat
หวานๆ หอมๆ เมื่ออมอยู่ในปาก กลิ่นอโรม่าหอมๆ กับวนิลา ที่ตีฟุ้งกลับขึ้นมาเมื่อกลืนลงคอไป 
แต่ถ้าจะให้ดีคงต้องเติมน้ำลงไปสักหน่อยครับ เผื่อว่าจะดื่มยาวๆ เพราะ burn ใช้ได้เชียวครับ 

เจือน้ำลงไปหน่อยนี่แหล่มขึ้นเยอะเชียวครับ แต่มันเหมือนกับ Burn มากขึ้นไงก็ไม่รู้ง่า กลัว
แถมกลิ่นที่ว่าฟุ้งๆ มันหายไปไหนหว่า 

After taste นั้นถ้าเป็นแบบ neat ค่อนข้างยาวใช้ได้เชียวครับ 
ส่วนถ้าเติมน้ำลงไปมันสั้นไปหน่อย สงสัยว่าคงเป็นที่ผมกะปริมาณได้ไม่ดีมากกว่า คงต้องลองกันใหม่ครับ
ถ้าให้เลือกผมกลับชอบแบบ neat มากกว่าครับมันเป็นอะไรที่สุดยอดกว่าเยอะเชียวครับ
สำหรับผู้ที่ชอบเหล้าตระกูลนี้แล้ว โดยความเห็นส่วนตัวผมคิดว่าไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ
เป็นอะไรที่ต้องหามาลองให้ได้เชียวครับ มาสัมผัสความแรง แต่อวลไปด้วยความหอม และแฝงด้วยความนิ่มอยู่ในทีด้วยตัวเองดีกว่าครับ 

วันศุกร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2555

The Dalmore 15 Yo กวางหนุ่มเนื้อหอมจากที่ราบสูง

ถือเป็นรีวิวแรกของผมประจำปีนี้ในวันศุกร์แห่งชาติที่สองของปี 2555 ยังมาตรงกับวันศุกร์ที่ 13 ซึ่งฝรั่งค่อนข้างถือกันซ่ะด้วยสิ
จริงๆ แล้วสำหรับกวางหนุ่มวัย 15 ขวบนี้ผมลองไปครั้งแรกตั้งแต่ศุกร์ที่แล้ว หรือวันศุกร์แรกแห่งชาติของปี 
แต่วันนั้นไม่มีอารมณ์รีวิวครับ อยากหาความแปลกใหม่ใส่ชีวิตในวันศุกร์แรกแห่งชาติ ให้สมกับปีใหม่สักหน่อยครับ


เหมือนเช่นเคยนะครับ รีวิวของผมแบบบ้านๆ ไม่รับประกันความถูกต้อง หากมีข้อผิดพลาดประการใดขอรับไว้ทุกประการ

ขอเริ่มที่กลิ่นก่อนเหมือนเดิมครับ 
ผมรินเจ้า Dalmore ทิ้งไว้พักใหญ่ๆ ให้น้องแอล เค้าได้ระเหยออกไปบ้างเผื่อว่าจะจับกลิ่นเจ้ากวางหนุ่มตัวนี้ได้มากขึ้น ไม่ผิดหวังครับ กลิ่น Aroma หอมๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของเหล้าจากถิ่น Highland เจือด้วยกลิ่น citrus ที่เป็นเอกลักษณ์ของเหล้าถิ่นนี้ชัดเจน ตามด้วยกลิ่นน้ำตาลไหม้ หรือ caramel กับ cinnamon นิดๆ ชวนให้อยากลิ้มลองเสียจริงครับ


มาต่อกันที่สีครับจัดว่าเข้มออกไปทางทองแดง หรือชาจีนแก่ๆ ไปเลยครับ คงเป็นที่อายุเหล้าบ่มค่อนข้างนาน และบ่มในถัง Sherry 100% ด้วยครับทำให้สีน้องกวางหนุ่มค่อนข้างเข้มเชียวครับ ขาหนักไหลอืดเชียว ลงมาเป็นกลุ่มๆ เชียวครับ


คราวนี้มาว่ากันที่รสชาติกันเลยดีกว่าครับ
พอจะยกเข้าปากนี่กลิ่นแรกคืออบเชย หรือ cinnamon นำมาเชียวครับ เข้าปากไปแล้วกลิ่นเครื่องเทศนำ ตามด้วยความเผ็ดนิดๆ คล้ายขิง แต่ไม่เผ็ดหนักเหมือนเหล้าที่บ่มจาก Sherry Casks ตัวอื่นครับ ไม่มีอาการ burn นิ่มซ่ะจนอยากยกซ้ำแบบต่อเนื่องเชียวครับ จบด้วยกลิ่นเครื่องเทศหอมๆ ขึ้นจมูก ไม่ฉ่ำ แต่ก็ไม่แห้งจนเกินไป ผมว่าผมจับได้ถึงกลิ่น Butter Scotch ด้วยอ่ะครับอันนี้ไม่มั่นใจนะครับ เหมือนกับว่ามันจะมีอยู่หน่อยๆ ครับ


After taste นั้นไม่ต้องพึ่งตัวช่วยใดๆ เลยครับ ยาวพอประมาณ เริ่มด้วยความฉ่ำ จบด้วยความแห้งในตัวของมันเอง ให้อธิบายคงไม่ถูกนักจนกว่าจะได้ลองสัมผัสด้วยตัวเองครับ แต่เจ้า Dalmore วัย 15 ขวดนี้ไม่ต้องใช้น้ำเย็นมาตบท้ายให้หวาน มันจบได้ด้วยตัวของมันเอง และชวนให้เราอยากที่จะยกมันอย่างต่อเนื่อง ตราบเท่าที่เราพอจะรับมือกับมันได้ 

สำหรับผมแล้วเจ้ากวางหนุ่ม Dalmore วัย 15 ขวบ ขวดนี้เหมาะมากครับในวันว่างๆ อยากหาอะไรที่มันแปลกใหม่ หรือในวันที่ต้องการผ่อนคลายหลังเลิกงานก็เหมาะดีครับ เหมือนเป็นแรงขับเรียกพละกำลังที่เสียไปกลับมาใหม่ได้เป็นอย่างดีเชียว ดื่มชากันดีก่า

วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555

The Snow Grouse 40%



เหล้าค่ายนกตั้งแต่ผมดื่มมา 2 ตัว ทั้งนกแดง นกดำ ก็ไม่เคยทำให้ผิดหวังเพราะใช้เหล้าจากโรงกลั่นในเครืออย่าง HighlandPark และ Macallan แล้วพอมาถึงนกขาวจึงต้องรีบจัดเข้าบ้านเพราะเป็น Grain Whisky หาดื่มได้ยาก แถมขวดก็สวย พร้อมวิธีดื่มแบบที่เราชาวมักเหล้าไม่ค่อยจะชิน คือให้แช่ในช่องฟรีสให้เย็นจัดแล้วเอามายกดื่มเป็น shot ในช่วงที่อากาศหนาวๆ ก็น่าจะทำให้พบประสบการณ์ใหม่ๆ



ในการดื่มครั้งนี้ผมเลือกที่จะใช้วิธีตามที่เค้าแนะนำกันมาเพื่อให้ได้รสชาติ และบรรยากาศดอยอินทนนท์ ซึ่งช่วงนั้นอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 8 องศา เย็นๆ สบายๆ บวกเหล้า shot เข้าไปน่าจะลำไม่น้อย



Appearance: แรกเริ่มเติมใส่แก้ว shot สังเกตุสีออกทองใส ขาเล็กไหลเร็ว


Aroma: กลิ่นน้องแอลมีพอสมควรแต่น่าจะน้อยลงเพราะความเย็น ได้กลิ่นวนิลาสดใหม่จางๆ ผสมกับกลิ่นหอมดอกไม้น่าจะคล้ายดอกมะลิ


Taste: ยกขึ้นดื่มแบบรวดเร็ว ได้รสหวานเค็ม เผ็ดลิ้นเล็กน้อยไม่ถึงกับนุ่มแต่ก็ไม่ถึงกับบาด กลิ่นด้านๆ แอลกอฮอล์ผสมมากับกลิ่นหอมของวนิลา


Finish: กลิ่นแอลกอฮอล์ ค้างคล้ายเหล้าพวก Vodka มีรสหวานหลงเหลือนิดหน่อยแบบสั้นๆ และมีกลิ่นวนิลาและความร้อนตีกลับขึ้นมานิดหน่อย



สรุป : ตัวนี้ผมคิดว่าเป็นเหล้าที่มีกลิ่นอ่อน ทำให้ชวนนึกถึงเหล้ายี่ห้อ Clan Macgregor ที่เคยดื่มเมื่อก่อนซึ่งหลังจากลองเป็น shot แล้ว ผมได้เอามาผสมน้ำกับน้ำแข็งดื่มดูก็นุ่มดีรสชาติบางเบาแต่ถ้าอยากให้ได้รสชาติอาจต้องผสมเหล้ามากหน่อย สำหรับผมจะให้เหมาะตัวนี้มาแนวเฮ ฮา ยกเป็น shot ตามด้วยมะนาวเกลือ หรือมะขามเปียกก็ลำไปอีกแบบ โดยคืนนั้นผมยกกับน้องๆ จนหมดขวดลิตร ซึ่งผมต้องขอบอกว่าเพลินจนระบบ SafeTcut ทำงานตัดสติ ปล่อยให้สันดานทำงานรู้ตัวอีกทีตื่นมาตอนเช้า ความจำหายไปช่วงใหญ่ๆ ที่เยี่ยมสุดๆ คือรั่วขนาดนี้แต่ไม่มีอาการแฮงค์หรืออาการขยาดเหล้าเลยครับ ตัวนี้ผมขอตั้งฉายาว่าไอ้ นกผีตามที่เพื่อนเล่าว่าที่ๆ ผมไปนอนนั้นเป็นป่าช้าเก่า แล้วแฟนผมก็บอกว่าตอนที่ระบบ SafeTcut ของผมตัดไปนั้นผมไปยืนคุยโทรศัพท์กับใครก็ไม่รู้ทั้งๆ ที่คลื่นก็ไม่มีอยู่ตั้งนาน



ปล. ตัวนี้ผมไม่รู้ที่มาว่าใช้เหล้าจากโรงไหนเพราะพอเป็น Grain Whisky แล้วยังใช้เหล้าของ HighlandPark และ Macallan หรือใช้โรงอื่นมาทำล้วนๆ