พวกผมแค่ชมชอบในรสชาติของสุรา เรื่องราวที่เขียน เริ่มต้นจากความชอบและความสนใจ ที่นำไปสู่การค้นหา
เมื่อได้รับรู้ และทดลองด้วยตัวเองแล้วก็อยากแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ และคนอื่นๆ ที่สนใจในเรื่องเดียวกันครับ

ข้อคิดเห็นที่ให้เกี่ยวกับเรื่องการร่ำสุราในแต่ละประเภท เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ที่ได้มาจากการลองของด้วยตัวเอง
ที่แค่อยากรู้ และอยากลองตามประสาครับ ผิดถูกประการใดก็คงไม่สามารถรับรองได้ครับ ขอน้อมรับคำแนะนำ และติชมทุกประการครับ


*** หมายเหตุ *** สงวนสิทธิ์สำหรับการอ่านและนำไปใช้ประกอบบทความเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้กัน และไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ทุกอย่างครับ

วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554

The Macallan Oak Select 40%




The Macallan เป็น SM ยี่ห้อแรกๆ ที่ผมใฝ่ฝันและพยายามหาซื้อเพราะโรงกลั่นนี้เคยผลิต SM ที่ราคาแพงที่สุดในโลก(ณ เวลานั้น) แต่เนื่องจากขวดแรกที่ได้มาก็ดันเป็นรุ่นพิเศษจะเปิดก็เสียดายมาได้ขวดที่ 2 ก็ดันเป็นรุ่นที่หายากอีกล่วงเลยมาถึงเจ้านี่ขวดที่ 4 เค้าก็ว่าเป็นรุ่น 1824 collection ...คิดอยู่ในใจมันก็รุ่นพิเศษอีกนี่หว่าเอาวะเปิดเถอะไม่งั้นชาตินี้คงไม่ได้ลองยี่ห้อนี้กันพอดี ประจวบกับมี meeting ก็เป็นโอกาสอันดีที่จะได้ฉลองกับเพื่อนๆ สมาชิกซักหน่อย


Appearance: สีทองใส และมีขายาวระดับกลาง

Aroma: กลิ่นวนิลา ไม้โอ๊คปนกลิ่นน้ำผึ้งค่อนข้างชัด

Taste: รสหวานและเผ็ดอ่อนๆ และมีกลิ่นวนิลา คาราเมล น้ำผึ้งตามมา

With Water: รสหวานและกลิ่นวนิลาชัดขึ้น รสสัมผัสมันเนยนิดหน่อย

Finish: จบแบบเรียบๆ ไม่หวือหว่า มีรสหวานอ่อนและกลิ่นวนิลาค้างนิดหน่อย




สรุป: ตัวนี้ไม่นุ่มเท่าไหร่เด่นที่ความชัดเจนของกลิ่นไม้โอ๊ค ดื่มแบบ neat ซัก2-3แก้วกำลังดี หรือผสมน้ำนิดหน่อย จัด mixer ซักชุดก็ดื่มได้แบบยาวๆ เหมาะกับคนที่ชอบทั้งอารามณ์เปลี่ยวหรือสังสรรค์กับเพื่อนๆ แต่ด้วยราคาที่ดุและหายากในบ้านเราไปซักหน่อยคนที่คิดจะลองอาจต้องทำใจไว้ก่อน

วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2554

The Macallan Fine Oak 12 Yo

ได้รับจากคุณ pip ผ่านคุณตือมาเมื่อหลายวันก่อน
มีโอกาสได้ลองไปเล็กน้อยเมื่อวันพบปะกันที่สโมสรวิทยุการบิน
ขอกลับมาลองกันแบบบ้านๆ ละเอียดๆ อีกสักครั้งครับ ไม่รับประกันความถูกต้องเหมือนเช่นเคยนะครับ
ตามประสาลิ้นบ้านๆ แบบผมครับ
ว่าด้วยเรื่องสีก่อนครับ สีออกแนวทองใสๆ ครับ แต่เข้มกว่าน้องเล็กตัว 10 ปีอยู่นิดหน่อยครับ
ด้านขานั้นค่อนข้างเล็ก แต่จัดว่าหนักไหลช้านิดหน่อยครับ


ด้านกลิ่นนั้น เป็นเรื่องแปลกครับ เพราะเจ้านี่บ่มด้วยถัง 3 ชนิดแบบเดียวกับตัว 10 ปีครับ
แต่กลิ่นนั้นกลับแตกต่างครับ กลิ่นออกไปทางผลไม้ เจือด้วยกลิ่นวนิลา ครับ
ไม่ค่อยมีกลิ่น Bourbon เหมือนตัว 10 ปีครับ เจือด้วยกลิ่นเครื่องเทศคล้ายพริกไทยอยู่หน่อยๆครับ



ต่อกันที่รสชาติบ้างครับ... ดื่มชากันดีก่า
จิบแรกออกแนวหวานอมเผ็ดนิดๆ ครับ ตามด้วยน้ำเข้าไปนี่หวานเด่นขึ้นครับ
เรื่องความฉ่ำนั้น ไม่มากแต่ก็ไม่น้อย เรียกว่ากลางๆ ครับ อย่าไปเปรียบกับ Nectar d'or เชียวครับ
ผมว่าวันก่อนที่ลองนั้นอาหารที่กินประกอบมันออกแนวเผ็ดๆ นิด ทำให้จับความเผ็ดได้เด่นครับ
แต่กลับมาลองเองคราวนี้มันเผ็ดเล็กน้อยครับ อาการ burn ค่อนข้างน้อยเหมือนกับตัว 10 ปี
แต่ความหวานนั้นผมจำได้ว่าตัว 10 ปีน่าจะหวานกว่าเล็กน้อยครับ แต่มีความเผ็ดมากกว่าครับ...



จิบที่สองครับ ความเผ็ดชัดเจนขึ้น กลิ่นผลไม้ กลิ่นโอ๊กชัดเจนขึ้น ไม่มีกลิ่นควันครับ
ความหวานปิดท้ายเมื่อตามด้วยน้ำ
ด้าน After นั้นกลางๆ แบบว่าหวานติดปลาย พร้อมกลิ่นผลไม้อวลอยู่ภายในปากและโพรงจมูกดีครับ
ไม่ยาวมาก แต่ก็ชวนให้อยากยกต่อได้เรื่อยๆ ครับ
เหมาะที่จะนั่งยาวกับเพื่อนๆ ในวันฝนซาได้ดีเชียวครับ

ถือเป็นความแตกต่างที่ชัดเจนสำหรับเหล้าตระกูลนี้ครับ แต่ละตัวในแต่ละสายหลัก มีบุคลิกที่ไม่ซ้ำกันเท่าไหร่ครับ
อาจดูคล้ายแต่ก็มีจุดต่างที่พอให้เห็นได้ค่อนข้างชัดครับ 

ขอจบรีวิวแบบบ้านๆ ไปสานสัมพันธ์กับ The Macallan Fine Oak 12 Yo ต่อก่อนครับ