พวกผมแค่ชมชอบในรสชาติของสุรา เรื่องราวที่เขียน เริ่มต้นจากความชอบและความสนใจ ที่นำไปสู่การค้นหา
เมื่อได้รับรู้ และทดลองด้วยตัวเองแล้วก็อยากแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ และคนอื่นๆ ที่สนใจในเรื่องเดียวกันครับ

ข้อคิดเห็นที่ให้เกี่ยวกับเรื่องการร่ำสุราในแต่ละประเภท เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ที่ได้มาจากการลองของด้วยตัวเอง
ที่แค่อยากรู้ และอยากลองตามประสาครับ ผิดถูกประการใดก็คงไม่สามารถรับรองได้ครับ ขอน้อมรับคำแนะนำ และติชมทุกประการครับ


*** หมายเหตุ *** สงวนสิทธิ์สำหรับการอ่านและนำไปใช้ประกอบบทความเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้กัน และไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ทุกอย่างครับ

วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Glenlivet Founder's Reserve

กระแส Non-aging กำลังมาหลายค่ายทยอยออก Non-Age กันมา
Glenlivet ก็ไม่พลาดจัด Founder's Reserve ออกมาให้ทันกระแส
ว่าแล้วเรามาเข้าเรื่องกันแบบลิ้นบ้านๆ เหมือนเช่นเดิมกันดีกว่าครับ

สี ออกทองใสๆ ขางดงามประมาณหนึ่ง
กลิ่น Citrus เน้นๆ ตามด้วย ลูกแพร Oak ใสๆ *** อันนี้ คหสต. น่าจะเป็นกลิ่น France Oak
กลิ่นตัวน้องแอลค่อนข้างจาง

รสชาติ จัดว่าค่อนข้างดี Body บางๆ เพื่อนๆ สายหวานน่าจะชอบครับ Balance ดีงามไม่ดุดัน
เหมือนสาวหวานคอยพะเน้าพะเนอเอาใจอยู่ใกล้ๆ

After Taste ค่อนข้างยาว Fresh Oak หอมๆ อวลๆ อยู่ในปากพร้อมกับกลิ่นส้ม ชวนให้ยกจิบได้เรื่อยๆ ในวันอากาศร้อนๆ หรือลมพัดเอื่อยๆ สบายๆ ถ้าอากาสร้อนๆ น้ำแข็งเหล็กสัก 1-2 ก้อนน่าจะแจ่มเลย

Conclusion น่าจัดเป็นเหล้าสามัญประจำบ้านได้อยู่ 
จะติก็เรื่องเดียวกับ Body ที่บางไปสักนิดหากน้ำไปผสมน่าจะเปลืองเหล้าอยู่พอควร
หากสงสัยว่ามันบางยังไง หากใครเคยชิม JW Platinum ก็ประมาณนั้นเลย แต่รสชาติไม่ต้องถามนะตัวนี้ให้อะไรมากกว่าเยอะครับ

ปล. คหสต. ล้วนๆ ไม่รับประกันความถูกต้องเหมือนเช่นเคยครับ
ปล.2 หากถูกจับอย่าลืมไปช่วยประกันตัวผมด้วยนะครับ แฮ่

The Arran Malt 10 Yo

Malt Whisky รสชาติดีจากเขตชาวเกาะ (Isle of Arran)
ตัว 10 ปีขวดนี้ถือว่าให้ความคุ้มค่าสำหรับผมเลย ทั้งราคา และรสชาติครับ
เริ่มกันแบบลิ้นบ้านๆ ละกันเนาะ
สี ทองใสๆ คงด้วยอายุที่บ่มไม่นาน และไม่ได้บ่มด้วย Sherry Oak Cask ด้วย

กลิ่น Citrus น้ำผึ้ง หอมสดชื่นดี

รสชาติ เนื้อแน่นเต็มปากเต็มคำดีนะ Butterscotch Vanilla Hazelnut
เหมือนกินไอกรีมวนิลาราดด้วย Butterscotch

After Taste ค่อนข้างยาว จับหางควัน Peat จางๆ ไม่หนักหน่วง

Conclusion ราคาสมเหตุผลเหมาะที่จะเป็นเหล้าสามัญประจำบ้านได้เลยครับ

ความเห็นส่วนตัว สำหรับเพื่อนที่อยากลองสายชาวเกาะ เลือกตัวนี้มาไม่น่าผิดหวังครับ
ไม่หนักหน่วงเกินไปเหมือน Ardbeg 10 ไม่เบาบางเกินไปเหมือน Jura
ตัวนี้เหมือนอยู่ตรงกลางให้ Balance ที่สวยงามตามท้องเรื่อง อาจจะไม่ใช่สำหรับเพื่อนๆ ก็ได้นะครับ
แต่ตัวนี้เมียน้อยผม รองจาก Laphroaig 10 ครับ สำหรับสายชาวเกาะ

เมาไม่รั่วมั่วส่งการบ้านกับ LittleMill Pure Malt 5 YO

ผมได้รับแบ่งปันเจ้า LittleMill Pure Malt ขวดจิ๋วนี้มาจากคุณ LoveLoveLove ครับ
ถือเป็นการบ้านเพิ่มเติมจากเดิมที่เคยให้ Laphroaig Unblended 10 Yo มาก่อนหน้านี้
จะเริ่มทยอยส่งการบ้านที่ค้างทั้งหมดให้ก่อนสิ้นปีครับ

เข้าเรื่องกันตามประสาลิ้นบ้านๆ กันดีกว่าครับ

สี ออกทองใสๆ คล้ายพวก Laphroaig 10 หรือ Glenmorangie 10

กลิ่น จัดว่าค่อนข้างดี Citrus Caramel จางๆ อบเชย + กลิ่นจำพวกถั่วนิดๆ

รสชาติกันบ้างตามประสาลิ้นบ้านๆ นะครับ
ถือว่าไม่เลวครับ แม้จะระเหยออกไปบ้าง Caramel พริกไทย เครื่องเทศพวกอบเชยพอประมาณ
เบาๆ ใสๆ แต่เผ็ดร้อนในตอนจบ คงเพราะอายุบ่มที่ไม่มากแค่ 5 ปี

After Taste ค่อนข้างสั้น แถมด้วยความเผ็ดร้อนของเครื่องเทศพวกอบเชย
รวมๆ ก็พอได้ครับน่าจะเหมาะกับวันร้อนๆ ล้าๆ หลังเลิกงาน

ป.ล. หมดจากเจ้า LittleMill ขวดนี้ผมต่อด้วย Glenlivet Founder's Reserve ผมจับกลิ่นโมลาสได้ใน Founder ครับ แปลกดีนะ

Conclusion จัดว่าผ่านเสียแต่หายาก และถ้ามีตัวที่อายุบ่มนานว่านี้อีกสักนิดสัก 10 ปีบวกผมว่าน่าสนใจเลยครับ
เอาง่ายๆ ก็คงต้องหาตัว Glenmorangie 10 น่าจะดีกว่าครับ

ป.ล. ความเห็นส่วนตัวล้วนๆ ไม่รับประกันความถูกต้องเหมือนเช่นเคยครับ

เมาไม่รั่วมั่วส่งการบ้านกับ Balvenie 21 Yo

ได้รับแบ่งการบ้านขวดนี้จากไนท์ มาร่วม 3-4 เดือนแล้วเพิ่งจะมีเวลามาไล่เคลียร์การบ้านในช่วงนี้
ตอนที่รับแบ่งมาไนท์ก็เตือนผมแล้วนะว่ากินแล้วมัน "อะไรว่ะ" ผมก็ยังสงสัยอยู่ว่าเหล้ามีชื่ออาย 21 ปี มันจะ "อะไรว่ะ" ได้ยังไง
ว่าแล้วเรามาเล่าสู่กันฟังตามประสาลิ้นบ้านๆ กันดีกว่าเนาะ

สี ทองอำพันค่อนข้างเข้มแต่ไม่ติดสีทองแดง ด้วยอายุบ่มที่นานถึง 21 ปีก็สวยงามตามท้องเรื่อง

กลิ่น ไนท์หลอกชัวร์ กลิ่นออกจะสวยงามขนาดนี้ Citrus กลิ่นหวานๆ ฉ่ำๆ ของน้ำผึ้ง  Fruit Cake แถมด้วย Maple Syrup
Oak จางๆ และไม่มีกลิ่นตัวน้องแอลมากวนใจด้วย โอ้ว... นี่มันสวรรค์ชัดๆ แต่....
เดี๋ยวนะ แบบนี้คุ้นๆ ว่าเคยโดนหลอกด้วยกลิ่นจากเกลนอีเกิ้งมาแล้วรอบหนึ่งนี่หว่า
อุ้ย...ไม่หรอกม้างตัวนั้น 12 ปีตัวนี้ 21 ปีเชียวนา หึๆ (ปลอบใจตัวเองเบาๆ)

รสชาติ Body ค่อนข้างบาง จิบแรกที่เข้าปาก "อะไรว่ะ" JW Platinum ที่ว่าจืดเจอตัวนี้เข้าไป W.T.F.
ติได้เลยว่าค่อนข้างไม่มีอะไรให้รู้ว่าเป็น 21 ปี เผ็ดร้อนวูบวาบ Light Body หวานปนเผ็ด ให้สัมผัสสากๆ ทื่อๆ

After Taste ค่อนข้าง "อะไรว่ะ" ทิ้งความเผ็ดร้อน เจือด้วยกลิ่น Oak นิดหน่อย แต่ก็ยาวอยู่พอประมาณกับความสากอยู่ในปาก

Conclusion "12 ปี Double Wood เถอะพี่ขอ"

ป.ล. ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ไม่รับประกันความถูกต้องนะครับ

วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

Laphroaig 18years old 48% ของรักของข้า


สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวเย็นย่ำก็ร่ำสุรา ห่างหายกันไปนานกับการรีวิววิสกี้กับผมแอดมินตือ เนื่องจากติดภาระกิจมากมายวันนี้อากาศดีไม่มีภาระกิจเลยต้องจัดซักรีวิว กับวิสกี้สายควันค่ายรักของผมเอง Laphroaig สำหรับประวัติค่ายนี้คงไม่ต้องกล่าวกัน เข้าเนื้อๆ เลยหล่ะกันครับ กับตัวโปรดของผม Laphroaig 18ปี แต่เพื่อให้การรีวิวเห็นภาพผมจึงยกรุ่น 10ปีมาชิมเปรียบเทียบกันด้วยครับ


สำหรับตัว 18ปีขวดนี้เป็นรุ่นสลากเก่าสามารถสังเกตุได้จากกระป๋องที่บรรจุจะเป็นสีเขียว (ตัวสลากใหม่จะเป็นสีขาว) บรรจุมาที่ 48%แอลกอฮอล์ ส่วน 10ปีเป็นฉลากใหม่บรรจุมาที่ 43%แอลกอฮอล์

 
Appearance:

  • 10ปี สีทองใส ขาเล็กยาวหนืดๆ
  • 18ปี สีทองใสแต่จะสีอ่อนกว่าตัว 10ปีนิดหน่อย ขาเล็กยาวหนืด

Aroma: 

  • 10ปี กลิ่นน้ำยาทำความสะอาดตามโรงพยาบาล กลิ่นควันแรงๆ ลอยขึ้นมาโดดเด่นฟุ้งกระจายไปทั่ว 
  •  18ปี กลิ่นควันนำ มีกลิ่นคล้ายวนิลา น้ำผึ้ง ทะเล กลิ่นจะมาแบบกลมๆ ไม่ฟุ่งเท่า 10ปี แต่รู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่รอวันแตกเหมือนลูกโป่งที่มีน้ำอยู่เต็มใกล้จะระเบิด

Taste: 
  • 10ปี หวานนำ เผ็ดตามมาแต่ไม่มากความหวานกลบอยู่ บอร์ดี้มีมากลางๆ กลิ่นควันเต็มปาก เด๊ดตอล์มาเต็ม ขี้เถ้า กลิ่นเกลือเค็มๆ สาหร่ายสดๆ
  • 18ปี หวานนำ เผ็ดมาเต็มๆ ตาม48%แอลกอฮอล์ อุ่นๆ ในปาก บอร์ดี้แน่ๆ ควัน คาลาเมลไหม้ๆ วนิลา หอยนางรม ขนมสาลี่ เด๊ดตอล์ขึ้นจมูก

With Water: 

  • 10ปี ความเผ็ดแทบจะหายไปเหลือความหวานไว้เนียนๆ คล้ายน้ำเชื่อมที่น้ำแข็งละลายผสมลงไป กลิ่นควันยังโดดเด่นจนอาจรู้สึกขมในปากเหม็นเขียวใบฝรั่ง 
  • 18ปี หวานน้ำผึ้ง แต่ก็ยังมีความเผ็ดที่หลีกไม่พ้น บอร์ดี้ยังแน่น ควันยังมีอยู่จนรู้สึกได้ไปถึงโพลงจมูก กลิ่นทะเลเย็นๆ มาเต็มๆ

Finish:

  • 10ปี ทิ้งความหวานกับบอร์ดี้กลางๆ ไว้ทั่วปาก กลิ่นควันยังคงตีกลับขึ้นมาให้รู้สึกอยากดื่มอีกแก้ว
  •  18ปี ทิ้งความเผ็ดเล็กน้อย ความหวานเต็มๆ ไว้ทั่วปากพาลไปถึงโพลงจมูกและลำคอ เคล้ามากับกลิ่นน้ำผึ้งและกลิ่นควัน แต่แอบสดชื่นคล้ายกินแตงโมหลังอาหารทะเล

สรุป: Lapgroaig 18ปีเป็นวิสกี้ที่ทำออกมาได้ดีเป็นการพัฒนาขึ้นมาจากตัว 10ปีอย่างเห็นได้ชัด แม้จะมีความเผ็ดตามดีกรีที่สูงแต่แลกกับบอร์ดี้ใหญ่ๆ และกลิ่นที่แอบซ่อนความซับซ้อนถือว่าทำสมดุลออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก ดื่ม 2-3แก้วกำลังดีถ้ามากกว่านั้นอาจจะหนักไปหน่อยสำหรับนักดื่มมือใหม่ Laphroaig 18ปี จึงเป็นวิสกี้ตัวหนึ่งที่ผมแนะนำให้ชิมครับ