สถานีรถไฟ Yoichi |
โรงกลั่น Nikka ก่อตั้งโดยคุณ Masataka Taketsuru ซึ่งท่านไปเรียนศาสษร์วิสกี้ที่ University of Glasgow ประเทศสก๊อตแลนด์ และถือเป็นคนญี่ปุ่นคนแรกที่เรียนด้านการทำวิสกี้ คุณ Masataka ใช้เวลาเดินทางเก็บเกี่ยวประสบการณ์และศึกษาวิสกี้อยู่ในยุโรปร่วมสิบปีและ กลับมาที่ประเทศญี่ปุ่น สร้างโรงกลั่นวิสกี้ Nikka ในปี ค.ศ.1934 ซึ่งถือว่าเป็นโรงกลั่นที่เก่าแก่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่นลองจาก Yamazaki โดยเลือกเมือง Yoichi ซึ่งอยู่ติดทะเลเป็นเมืองท่า มีแหล่งน้ำคุณภาพ และมีสภาวะอากาศใกล้เคียงเขต Highland ของประเทศสก๊อตแลนด์ เพื่อสร้างสรรค์วิสกี้คุณภาพ
การเดินทางของผมในครั้งนี้น่าเสียดายที่เวลาค่อนข้างน้อยเพราะสภาพอากาศทำ ให้ผมไปถึงโรงกลั่นเวลา 16.30น. อีก 30นาทีปิด แต่ไม่เป็นไรลุยเท่าที่ได้หล่ะกันเดินเข้ามาถึงประตูด้านหน้าพนักงานต้อนรับ ก็ยื่นแผนผังในการเดินชมเที่ยวให้และชี้เป้าว่าอย่าลืมไปเทสวิสกี้ด้วยนะ ผมก็ไม่รอช้าเดินจ่ำไปอย่างเร็ว
ด้านหน้าทางเข้าโรงกลั่น |
อ่านไม่ออกอะ |
ภายในโรงกลั่นเมื่อพ้นประตูทางเข้า |
มาถึงห้องแรกทางซ้ายมือ เป็นห้องกลั่นซึ่งมีหม้อกลั่นแบบ Normal pot still ตั้งเรียงรายอยู่ครับ โดยในห้องได้มีการจัดแสดงภาพการกลั่น และตัวอย่างพื้นผิวของหม้อกลั่นซึ่งเราจะเห็นความหนาของหม้อทองแดงได้อย่าง ชัดเจน
หม้อกลั่นตั้งเรียงราย |
ตัดให้ดูความหนาเนื้อทองแดงของหม้อกลั่น |
ภายในห้องจัดแสดงถัง |
เครื่องมือต่างๆ |
ลองอ่านกันดูนะ ผมอ่านไม่ออกจริงๆ |
น่าจะเป็นอาคารทำ Mash มีถังสำหรับใส่วัดถุดิบ |
ถังแสตนเลสขนาดใหญ่สำหรับหมัก Wash |
สีของ Wash ที่ได้ |
เมื่อออกมาจากโซนอาคารจัดแสดงแล้วจะพบกับรูปปั้นของคุณ Masataka Taketsuru ซึ่งในบริเวณนี้รอบๆ จะเป็นสวนมีต้นไม้ใหญ่อากาศร่มรื่นมากๆ และถ้าสังเกตุดีๆ จะมีโรงบ่มวิสกี้ตั้งอยู่มากมาย โดยใรงบ่มเหล่านี้จะต้องอยู่ในที่มืดและมีอุณหภูมิที่พอเหมาะเพื่อให้ถังไม้ ค่อยๆ ช่วยสร้างสรรค์วิสกี้ที่มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของ Nikka
รูปปั้นของคุณ Masataka Taketsuru |
ห้องบ่มหลายสิบห้องเรียงราย |
บรรยากาศภายในมืดสนิทมีกลิ่นถังไม้ แอลกอฮอล์ และราอับๆ |
เดินมาได้ซักพักจะพบห้องทางขวามือซึ่งเป็นที่ตั้งของ Whisky Museum และ Whisky Club มีการจัดแสดงที่เล่าถึงประวัติของโรงกลั่นและประวัติของคุณ Masataka Taketsuru พร้อมทั้งรางวัลต่างๆ ที่ Nikka เคยได้รับอย่างมากมาย และในส่วนของวิสกี้คลับคือเราสามารถเลือกซื้อเหล้าเพื่อดื่มได้หลายตัวมากๆ ทั้งของทางโรงกลั่นเองและวิสกี้จากต่างประเทศในราคาที่ถือว่าถูกมากที เดียว...เสียดายเวลาผมน้อยมากจึงไม่สามารถจัดได้
ทางเข้า Museum |
การจัดวางเล่าเรื่องราวได้มีมากครับ |
จัดแสดงได้ดีมากครับ |
แต่ละตู้มีแต่ของหายากๆ |
เพิ่มคำอธิบายภาพ |
ได้รับการยอมรับจากสากล |
Vintage รุ่นหายากๆ ทั้งนั้น |
บรรยากาศ Whisky Club อยากอยู่ทั้งวันเลย |
เมื่อเดินออกมาจาก Whisky Museum ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องที่ชื่อว่า Single Barrel ซึ่งห้องนี้จะนำวิสกี้ที่เป็น Single Cask ของทางโรงกลั่นออกมาโชว์และขาย คำว่า Single Cask ก็แปลตรงตัวครับคือเหล้าที่มาจากถังเดียวไม่มีการผสมกับถังอื่นซึ่งจะหาซื้อ ได้แค่ที่นี่เท่านั้นครับ
Single Cask ทั้งนั้นเลย อยากได้หมดเลยครับ แพ้ทางจริงๆ |
เมื่อออกจากห้อง Single Barrel แล้วผมก็มุ่งตรงไปยังจุดที่พนักงานต้อนรับบอกคือ อาคารที่จะมี Whisky Testing ครับซึ่งส่วนที่ทำ Testing นั้นอยู่บนชั้น 2 ของอาคารมีทั้งวิสกี้และบรั่นดี(นอกจากวิสกี้แล้วเค้ายังทำบรั่นดีด้วยนะ) ให้ชิมหลายตัวครับ แต่จะเป็นตัวมาตรฐานของทางโรงกลั่นครับ
ห้องทำ Whisky Testing อยู่บนชั้น 2 ของอาคารทางขวา ส่วนชั้นล่างเป็นร้านอาหาร และอาคารด้านในคือที่ขายของ |
ซึ่งที่ผมเลือกชิมเป็น Nikka Whisky 17 ปี รสชาติหวานนิดๆ เป็นแนวหอมสดชื่นกลิ่นน้ำผึ้ง ผลไม้ฉ่ำนิดๆ ดื่มง่ายมากๆ
Nikka Whisky 17 ปี ตัวนี้ที่ญี่ปุ่นราคาพันกว่าบาทถือว่า OK เลยครับ |
ตัวนี้รางวัลใหญ่ๆ รับประกันว่าไม่แพ้สก๊อตวิสกี้แน่นอน เพราะเคยได้รางวัลแบบหักหน้ากันมาแล้ว ราคาก็พันต้นๆ เช่นกัน |
แพ้ทางจริงๆ ขนาดอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกซักตัวเจอภาษาอังกฤษไม่กี่คำซื้อเลย |
การมาเยือนโรงกลั่น Nikka Yoichi ถือว่าสนุกมากครับเสียดายเรื่องเดียวคือเวลาของผมน้อยเกินไป ไม่อย่างนั้นคงได้อยู่ซัก 3ชม. โรงกลั่นนี้ผมประทับใจมากครับเพราะมีขนาดใหญ่พื้นที่กว้างขวางกว่าที่ Islay อย่างมากเดินได้ทั่วอย่างกับสวนสาธารณะ การวางตำแหน่งของอาคารต่างๆ ถือว่าเยี่ยมเลยครับ เป็นโรงกลั่นที่ทันสมัยทีเดียว และยังมีให้ชิมฟรีอีกเอาไปเลย 9คะแนน ที่ตกไป 1คะแนนคือมีภาษาอังกฤษน้อยไปหน่อย ถ้าเพื่อนๆ สนใจอยากมาเที่ยวสามารถสอบถามผมมาได้ครับ
ลาด้วยภาพหม้อกลั่นที่เคยใช้ในอดีตที่อยู่ในสวนด้านหลัง บรรยากาศดีมากๆ ครับ |