พวกผมแค่ชมชอบในรสชาติของสุรา เรื่องราวที่เขียน เริ่มต้นจากความชอบและความสนใจ ที่นำไปสู่การค้นหา
เมื่อได้รับรู้ และทดลองด้วยตัวเองแล้วก็อยากแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ และคนอื่นๆ ที่สนใจในเรื่องเดียวกันครับ

ข้อคิดเห็นที่ให้เกี่ยวกับเรื่องการร่ำสุราในแต่ละประเภท เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ที่ได้มาจากการลองของด้วยตัวเอง
ที่แค่อยากรู้ และอยากลองตามประสาครับ ผิดถูกประการใดก็คงไม่สามารถรับรองได้ครับ ขอน้อมรับคำแนะนำ และติชมทุกประการครับ


*** หมายเหตุ *** สงวนสิทธิ์สำหรับการอ่านและนำไปใช้ประกอบบทความเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้กัน และไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ทุกอย่างครับ

วันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2555

The Macallan 12 years old Sherry Oak cask 40%


ผมขอสวัสดีปีใหม่ไทยย้อนหลังและขออวยพรให้ทุกๆ คนมีความสุขปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ หวังเหล้าตัวไหนเข้าบ้านก็ขอให้ได้นะครับ ช่วงนี้ผมเองมาอยู่ที่ภูเก็ตได้ก็หลายเดือนแล้วจะหาเหล้ามาร่ำมันยากนัก วันนี้เลยขอนำเสนอ Macallan 12 ปี Sherry Oak cask ที่ได้มาหลายเดือนแล้ว และเมื่อคร่าวmeetingครั้งล่าสุดมีเพื่อนๆ หลายคนให้ความสนใจกับเหล้าตัวนี้เป็นอย่างมาก แต่ผมเองในวันนั้นซัดไปแล้วหลายขนานเหลือเกินทำให้แยกรสชาติไม่ค่อยจะออกซักเท่าไหร่ วันนี้เลยจัดเอามาซ้ำแบบตัวๆ ซักที

Macallan ขวดนี้ถือเป็นตัว Standard ของทางโรงกลั่น แม้ว่าช่วงหลังจะไปเน้น Fine Oak แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะออกรุ่นปกติให้เราได้ลิ้มลอง




Appearance: สีทองแดงเข้มไปทางน้ำตาล ขาเล็กยาวไหลช้ากลางๆ

Aroma: กลิ่นวนิลานำเด่นเตะจมูก ดมไปซักพักได้กลิ่นชะเอม เปลือกส้มตากแห้ง

Taste: รสหวาน และสัมผัสความเผ็ดได้ชัดเจน มีกลิ่นหอมวนิลา และกลิ่นคล้ายเปลือกส้มตากแห้ง ตบท้ายสัมผัสฝาดปลายและกลิ่นคล้ายควันไม้ขีด

With Water: ความเผ็ดลดลงแต่ก็ยังรู้สึกได้ รสหวานยังมีแต่ว่าอ่อนลง กลิ่นยังคงออกแนวผลไม้ตากแห้งและมีกลิ่นคล้ายเชอรี่เชื่อมฉ่ำนิดๆ

Finish: ทิ้งความเผ็ดไว้แตกซ่านในปาก ความร้อนที่ลำคอ ความฝาดยังคงเหลือที่โคนลิ้น และมีกลิ่นวนิลาและควันจางๆ ให้ความรู้สึกคล้ายกินดาร์คชอคโกแล็ต


สรุป: โคตรเผ็ดเลยครับ หลังจากที่ผมห่างหายจากเหล้าประเภทนี้ไปนานเจอเข้าไปก็งงเหมือนกัน สิ่งที่ประทับใจสำหรับผมคือความฝาดที่แฝงเข้ามา เพราะส่วนใหญ่เหล้าจากเขตนี้น่าจะออกวนิลา โอ๊คกี้ น้ำผึ้งหวานฉ่ำ แต่ตัวนี้ให้สัมผัสฝาดแต่ก็ไม่ลืมกลิ่นวนิลา แต่ข้อที่ไม่ประทับใจคือความเผ็ดที่เยอะเกินไปจนไปกลบกลิ่นอื่นๆ จนหมดครับ

วันอาทิตย์ที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2555

Jack Cola Versus Jim Cola

 วันนี้ขอมาแนวแปลกสักนิดครับ กับ เครื่องดื่มสำเร็จรูปพร้อมดื่มสองหนุ่มแดนมะกัน ที่ถูกนำมาผสมกับ Cola สำเร็จรูปโดย Australia ครับ โดย หนุ่ม Jack นั้นถูกอ้างว่ามีอยู่ 12.5% ของปริมาตร 340 ml.  ในขณะที่หนุ่ม Jim นั้นมีอยู่ 9.9% ของปริมาตร 340 ml. ครับ 


ยกแรกที่กลิ่นก่อนนะครับ ผมให้น้อง Jim ชนะไปครับ ให้กลิ่นของเหล้ามากกว่าหนุ่ม Jack ครับ 
กลิ่นของ Jack นั้นโดน Cola กลบไปเยอะครับ


ด้านรสชาติกันบ้างครับ หนุ่ม Jack ให้ความรู้สึกเหมือนดื่ม Cola แล้วมีกลิ่น Bourbon มากกว่าครับ
ไม่ค่อยได้เนื้อเหล้าสักเท่าไหร่ครับ ถ้าเทียบกับหนุ่ม Jim ที่เคยลองมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่เดี๋ยวต้องซ้ำอีกทีครับเพื่อความแน่นอน




มาต่อกันที่หนุ่ม Jim ครับ รสชาติให้ความเป็นเหล้ามากกว่า Jack จริงๆ ด้วยครับ
เนื้อเหล้าเป็นชิ้นเป็นอันมากกว่าครับ ให้ความรู้สึกว่าเหมือนดื่ม Bourbon ผสม Cola จริงๆ ครับ ไม่เหมือนกับ Jack ที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับดื่ม Cola กลิ่น Bourbon ครับ


คงพอจะเดาคำตอบได้แล้วนะครับ ว่าสำหรับผมแล้วจะเลือกตัวไหน
ข้อคิดเห็นทั้งหมดเหมือนเช่นเคยนะครับ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวไม่รับประกันความถูกต้องครับ 
ฉะนั้นแล้วจงอย่าเชื่อจนกว่าจะได้ลองเองครับ