พวกผมแค่ชมชอบในรสชาติของสุรา เรื่องราวที่เขียน เริ่มต้นจากความชอบและความสนใจ ที่นำไปสู่การค้นหา
เมื่อได้รับรู้ และทดลองด้วยตัวเองแล้วก็อยากแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ และคนอื่นๆ ที่สนใจในเรื่องเดียวกันครับ

ข้อคิดเห็นที่ให้เกี่ยวกับเรื่องการร่ำสุราในแต่ละประเภท เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ที่ได้มาจากการลองของด้วยตัวเอง
ที่แค่อยากรู้ และอยากลองตามประสาครับ ผิดถูกประการใดก็คงไม่สามารถรับรองได้ครับ ขอน้อมรับคำแนะนำ และติชมทุกประการครับ


*** หมายเหตุ *** สงวนสิทธิ์สำหรับการอ่านและนำไปใช้ประกอบบทความเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้กัน และไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ทุกอย่างครับ

วันศุกร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2564

แสงสว่าง Thai Spirit 40% Vol/Alc

 [SR] แสงสว่างจัดเป็น Spirit RUM Base หมายถึง spirit ที่ใช้ Rum เป็นวัตถุดิบเริ่มต้น แล้วเติมด้วยส่วนผสมของสมุนไพรไทยลงไป ใช้เวลาในการหมักบ่มอีกประมาณ 6 เดือน สำหรับสูตรนี้คิดขึ้นโดย คุณเดย์ บาร์เทนเดอร์ของร้านท่าช้างเชียงใหม่ ผลิตแบบ OEM โดย บจก. ตะวันแดง 1999 พกพาน้องแอลมาที่ 40% Vol./Alc.

กลิ่น โมลาส, มิ้นท์, อบเชย, เครื่องเทศ แฝงด้วยกลิ่นตัวของน้องแอลจางๆ คล้ายกับแสงโสมเหรียญทองแต่กลิ่นจะไม่ฉุนเท่า

รสชาติ หวานนำ หวานคล้ายน้ำเชื่อม กลิ่นมิ้นเล็กน้อย อบเชย เผ็ดเล็กน้อยคล้ายพริกไทย ดื่มง่าย ไม่ซับซ้อน

Aftertaste ค่อนข้างสั้นไปหน่อย แต่ก็ทิ้งความละมุนไว้ในปากพอสมควร ดื่มแบบ Neat ได้สบายๆ หรือ อยากชงผสมแบบโซดา / น้ำ ก็ไม่ว่ากัน

Conculsion เท่าที่ได้คุยกับคุณเดย์ ตัวนี้ออกแบบมาเพื่อดื่มแบบผสม หรือ ทำเป็น cocktail สูตรของทางร้านโดยเฉพาะ

คหสต. ดื่มแบบ neat สำหรับผมถือว่ากำลังดี ดื่มง่ายกว่าตัวแสงโสมเหรียญทอง แต่เอาไปผสมจะค่อนข้างเปลืองเหล้าไปหน่อย เพราะจะว่าสำหรับ neat กับผมแล้วถือว่าจืดไปหน่อย แต่ก็แลกมากับการดื่มง่าย ดื่มได้เรื่อยๆ ไม่หวานจนเลี่ยนเกินไป เหมือนกับแสงโสมเหรียญทอง และไม่ออกแนวลูกโป่งวิทยาศาสตร์เหมือนแม่โขงรุ่นใหม่

ว่าแล้วจะมีคนส่งมาเป็น SR แบบนี้อีกไหมเนาะ สภาพพพพพ

วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

BRUICHLADDICH Black Art1990 EDITION:06.1 / 26 AGED YEARS /46.9%

 


        BRUICHLADDICH ผู้ชอบสร้างสรรค์รสชาติแปลกใหม่ ปกติเราจะพบวิสกี้ที่มีรสชาติซับซ้อนเข้าใจยากได้ยากนักกว่าจะชิมลิ้มลองแล้วเจอซักตัวก็เสียเงินเสียทองไปตั้งมากมาย แต่ค่ายนี้ไม่ต้องห่วงเพราะเขามักจะออกวิสกี้ที่มีลักษณะเฉพาะตัวสังเกตุได้จากฉลากที่ไม่เหมือนใครพ่วงมากับราคาหลักหมื่น โดยจุดเด่นของค่ายนี้คือแม้จะอยู่บนเกาะ Islay ที่ขึ้นชื่อเรื่อง Peat แต่แบรนด์ของ  BRUICHLADDICH  ยังคงทำแต่วิสกี้สาย Unpeated จึงทำให้ได้กลิ่นที่เป็นธรรมชาติแบบฉบับเกาะ Islay โดยที่ไม่มีควันมากวนใจ

 

Adam Hannett, BRUICHLADDICH's Head Distiller


        BRUICHLADDICH Black Art เป็นซีรี่ส์ที่ Adam Hannett, Head Distiller เป็นคนออกแบบด้วยตัวเองเพื่อให้ได้รสชาติที่เขาต้องการ (ค่อนข้างเอาแต่ใจนะเนี่ย) ผลคือขายดิบขายดีและผลิตออกมาอย่างต่อเนื่องซึ่งในปัจจุบันอยู่ที่ Edition 8.1 เข้าไปแล้ว สำหรับขวดที่ผมเอามาเขียนนี้เป็น Edition 6.1 อายุ 26ปี อัดดีกรีมาที่ 46.9% จำนวนการผลิต 18,000 ขวดเท่านั้น


        สีทองแดงเข้มน่าจะเป็นผลมาจากถัง Sherry กลิ่นนำเป็นผลไม้เมล่อน สาลี่ แอปเปิ้ลแดงสุกฉ่ำ แทรกมากับ Dark Chocolate ดูลึกลับ รสชาติเมื่อสัมผัสลิ้นหวานแน่น และเผ็ดไปทั่วปาก มี Body ค่อนข้างกลางๆ แน่น หยดน้ำลงไปได้รสเค็มกลิ่นทะเลเพิ่มเข้ามา รู้สึกฝาดลิ้น จบเผ็ดและ dry มีกลิ่นดอกไม้แห้ง สบู่ ตีขึ้นมาเป็นระยะ

        สรุป แม้ชื่อจะ Black Art มากับขวดสีดำจนคิดว่ายังไงก็ควันแน่นอนแต่เมื่อเปิดดมไม่พบควันซักนิด จนคิดว่าจมูกด้านหรือป่าว ชิมไปแล้วเจอรสชาติโคตรซับซ้อนเดายาก มีความแปลกใหม่ยิ่งจบสบู่นี่เล่นเอางงด้วยค่าตัวหมื่นกว่าบาทอาจจะไม่เหมาะกับมือใหม่หรือแม้จะเป็นมือเก่าซื้อมากินเองทั้งขวดยังอาจจะคิดหนัก วิสกี้ขวดนี้ในมุมมองของผมเหมาะกับการซื้อมาเปิดนั่งล้อมวงกับเพื่อนวิจารณ์แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันมากกว่ารับรองว่าขวดนี้เดียวเถียงกันได้ทั้งคืน


#Bruichladdich #whisky #ดื่มอย่างรับผิดชอบ #เมาไม่ขับ