....."Bunnahabhain" Single Malt จากเกาะ Islay เป็นหนึ่งในจำนวน 8 โรงกลั่นของเกาะ....ตั้งอยู่ชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะ (เหมือนอีสานบ้านผมเลยอะ).... ![โฮ่ๆ](https://lh3.googleusercontent.com/blogger_img_proxy/AEn0k_vUh31k6qP93_70IzulwGZBl_BfXXhvvYS6ckBWmk4hEA-8ieg6cz_uy8WBlpaqGEZtsHEaXkYM7L77B_l848_IX_AVDsvSGTq6RLebaiYrNiVQvYwrQtVlWNK_DfSSikTvHU5fSg=s0-d)
อยู่ตรงช่องแคบตรงกันข้ามกับ เกาะJura......สามารถมองเห็นเกาะ Jura ได้สบายๆ.......เกาะ Jura เป็นเกาะที่มีโรงกลั่นเหล้าอยู่หนึ่งเดียวคือ The Isle Of Jura นั้นเอง...ตัวโรงกลั่น Bunnahabhain ก่อตั้งเมื่อปี 1881...ปัจจุปันเจ้าของคือ Burn Stewart Distillers Ltd. มีเหล้าในเครือที่ดังๆคือ Bunnahabhain, Tobermory, Deanston, Ledaig, Black Bottle, Scottish Leader เป็นต้น
.......ขอออกตัวก่อนว่าผมยังแยกแยะกลิ่นต่างๆในเหล้าออกมาไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ต้องใช้เวลาลองอีกเยอะพอสมควรครับ
.......เริ่มจาก Package ของเหล้า ทำออกมาได้ดีพอควรมีแผ่นพับบรรจุให้ในกล่อง 2 ชิ้นดูดีทีเดียว...Bunnahabhain 12 YO เหล้าขวดนี้ผมได้มาจาก Duty Free ลาวตรงฝั่งหนองคายเหมือนเดิม ที่ราคา 1,100 บาท กับขนาด 0.7L, 40% Vol. ..ตัวนี้ได้รับรางวัล World Whisky Awards 2010 ด้วยนะครับ....... ![](https://lh3.googleusercontent.com/blogger_img_proxy/AEn0k_vd8T4X-qT06VXtfYtUMHUaO8VC89cvyi-ADHzrMEIIJEtH5eZBR4zhV-ck5NyrhgD29OC2PbFVFIMLyg35-6OBWwDq6jkVnf8Blj0x6dpnfT2ALLvCFxCh2vqwGdi75Cyii-REJUVVQO3O=s0-d)
ตัวที่ผมได้มาจะเป็นโฉมเก่ากล่องจะกลม...ตัวโฉมใหม่จะเป็นกล่องสี่เหลี่ยม ตัวรุ่นใหม่ ดีกรีเพิ่มเป็น 46.3% และ เป็น Non - Chillfiltered และ มี"สีธรรมชาติ"(ไม่มีการเพิ่มคาราเมล)
.......สีของเหล้าจะออก น้ำตาลแดง....ดูจากรูปจะเห็นว่าเข้มกว่า Ardbeg 10 YO กับ Laphrodig 10 YO .......กลิ่น หอมมาก....หอมเนียน....หอมกลิ่นโอ็ค....และมีกลิ่นออกสดชื่นแนวลมทะเลไอทะเล....กลิ่น Alcohol ดุุพอควรปล่อยให้ละเหยออกหน่อยจะดีขึ้น....ที่น่าแปลก...ผิดคาดจากเหล้าจาก Islay จริงๆ...คือไม่ค่อยมีกลิ่นควันเลย.......มีแบบจางๆมากๆแบบต้องแคะออกมาจริงๆถึงจะพอมีบ้าง
......
สัมผัสลิ้นแรก..รู้สึกได้ถึงความนุ่มเนียน...ดื่มง่าย..รสดีไม่มีสแลง...มีกลิ่นควันตีขึ้นมาพอสมควร...น้อยเมื่อเทียบกับเหล้าจาก Islay ตัวอื่นที่ผมเคยสัมผัสมาคือ...(Ardbeg 10 YO กับ Laphrodig 10 YO).........แต่มากเมื่อเทียบกับเหล้าที่ไม่มีกลิ่นควัน น่าจะพอๆ กับHighland Park 12 YO..แต่แปลกใจตรงที่ตอนดอมกลิ่นไม่ค่อยมีกลิ่นควัน......แต่ตอนดื่มกลับมีควันมาซะนี่...ไม่บาดคอเลย....มีสกิดลิ้นและกระฟุ้งแก้มนิดๆหน่อยๆ...เป็นเหล้าที่มีเนื้อหนังปานกลางไม่ใช้เต็มปาก
เต็มคำแบบพวกFull Body
........Finish อยู่ปานกลางไม่ค่อยยาวเท่าไหร่กลิ่นควันก็หายไปไม่ติดปากติดจมูก..ออกแห้งไม่ฉ่ำ.....แต่ก็ถือว่าจบสวยเหมือนกันไม่ทรมาน...น้ำเย็นตามหวานนิดหน่อยไม่เยอะ
.......ลองเติมน้ำนิดหนึ่ง...ผมใช้ น้ำแร่...... Speyside Glenlivet เป็นชนิด ฟองน้อย....กลิ่น Alcohol น้อยลงแต่กลิ่นของตัวเหล้าก็ Drop ลงตามไปด้วย.....รสชาติออกแนวเปรี้ยวนิดๆ....ไม่ค่อยเข้ากันสักเท่าไหร่.....รสเปรี้ยวเป็นเพราะน้ำแร่มีฟองนั้นเองทำให้มีรสเปรี้ยว (จริงๆแล้วน้ำแร่ชนิดฟองมากก็เหมือนโชดาเลย...แต่ผสมกินกับเหล้านี่อร่อยกว่าโชดาเยอะ...น้ำแร่ที่ลองตอนนั้น คือเจ้า"Perrier" แต่ราคาก็แพงมากไม่คุ้มที่จะใช้แทนโชดาราคาประมาณ70 กว่าบาทได้) ผมว่าถ้าจะเติมน้ำ(นิดเดียว)..ใช้น้ำแร่ไม่มีฟอง หรือพวกน้ำสิงห์น่าจะดีกว่า
......เพื่อความถูกต้อง....เพราะคนเราประสาทสัมผัสแต่ละวันไม่เหมือนกัน.....ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างเช่น สภาพร่างกาย,สภาพจิตใจ, สิ่งแวดล้อม, อื่นๆอีกมากมายเลยขอใช้ Ardbeg 10 YO กับ Laphrodig 10 YO เทียบเคียงดู.....สองตัวนี้ควันมาเลย....คนชอบ ควัน & พีท ไม่ผิดหวัจริงๆ....จากทีลองดมกลิ่นดู...ถ้าไม่นับกลิ่นควันเหล้าทั้งสามตัวมีกลิ่นที่ออกแนวเดียวกันเลยใกล้เคียงกันมากรสชาติของทั้งสองตัวออกเข้มข้นเต็มๆกว่า Bunnahabhain
.....สำหรับท่านที่เป็นแฟนเหล้าจาก Islay อาจจะผิดหวังบ้างเพราะขาดเอกลักษณ์ของเหล้าจากเขต Islay ไปพอควรนั้นคือ Smoke & Peat อาจจะน้อยไปหน่อย...แต่ก็ทดแทนด้วยเหล้าที่รสชาติดี... กลิ่นดี.....ดื่มง่าย....รสชาติไม่รุนแรงเกินไป...ออกเบาๆ....ไม่เปรี้ยว....ผมว่าคุ้มค่าราคาเงินที่จ่ายไปอยู่นะ........ ![](https://lh3.googleusercontent.com/blogger_img_proxy/AEn0k_vTeAqZSv4ChV8dpYYM5ohFN4nQIQ62j4lN8gOFnf96y38RwC-2Qo9NglEZf43mq0Z-GmKFN5w-yr8bGDGsntk7ANff9HoruNJBL6xDP7XT7eHjMbd-TDD9=s0-d)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น