จริงๆ แล้วเปิดลองเจ้านี่ไปได้สอง-สามครั้งแล้วครับ แต่ยังไม่มีอารมณ์รีวิวเท่าไหร่ครับ
สัญญากับคุณตือว่าจะเอาเจ้านี่มาลองหลังจากกลับจาก กทม. ผ่านมาเกือบเดือนก็ขอเริ่มในแบบลิ้นบ้านๆ
ไม่รับรองความถูกต้องเหมือนเช่นเคยนะครับ
เจ้านี่เรียกตัวเองว่า Taste Island Life หรือว่าแปลอย่างงูๆ ปลาๆ ก็ได้ความว่า ดื่มด่ำกับวิถีชีวิตของเกาะ Jura
ซึ่งมีร้านค้าอยู่เพียงร้านเดียว ผับอยู่เพียงผับเดียว ชุมชนเล็กๆ หนึ่งชุมชน และโรงกลั่น malt ประจำเกาะเพียงโรงเดียว
เริ่มที่สีก่อนครับ ออกแนวทองแดงเข้มๆ นิดๆ ครับ กับอายุเพียงแค่ 10 ปี
ถือว่าถังที่ใช้น่าจะใหม่พอควรทำให้ได้สีที่เข้มครับ ในส่วนของขานั้นถือว่าทำได้ดีครับ หนัก ใหญ่ ไหลช้าพอประมาณ
ต่อกันด้วยเรื่องของกลิ่น มีความสดชื่น สมคำบรรยายจริงๆ ครับ กลิ่นคล้ายผลไม้ เจือด้วยกลิ่นอากาศบริสุทธิ์
กลิ่น peat ที่เป็นเอกลักษณ์ของเหล้าจาก Isle ก็พอมีให้ได้กลิ่นอยู่บ้างครับ
แต่ไม่มีกลิ่นโรงพยาบาลเหมือนเจ้า Laphroaig นะครับ แบบนี้ทำให้หลงรักได้ง่ายกว่าเยอะครับ
ยิ่งเปิดแล้วเททิ้งไว้สักพักกลิ่นยิ่งอวล ชวนให้อยากลองเร็วๆ เชียวครับ
ต่อกันที่ขาถือว่าทำได้ดีครับ หนัก ใหญ่ ไหลช้าพอประมาณ
ต่อกันที่รสชาติบ้างดีกว่าครับ เจ้านี่ถือว่าดื่มง่ายครับ ไม่มีกลิ่นควันเหมือน Laphroaig
อาจทำให้เพื่อนสมาชิกหลายคนที่หลงรักกลิ่นควันผิดหวังได้ครับ
กลิ่น peat บางๆ เจือด้วยความสดชื่น และความหวานปนเค็มนิดๆ (งงมั๊ยครับเนี๊ยะ) แต่มันได้อย่างนั้นจริงๆ ครับ
ชวนให้หลงเสน่ห์เกาะ แห่งนี้ได้ไม่อยากเย็นเลยครับ
ด้าน After taste นั้นจัดว่ากลางๆ ครับ ยาวพอประมาณ ยิ่งถ้าได้น้ำเย็นๆ ปิดท้ายนี่หวานยาวเชียวครับ
กลิ่นอโรม่าที่ค้างอยู่ในปาก สำหรับผมแล้วแบบ neat นี่ลงตัวแบบไม่ต้องไปลองแบบอื่นให้เสียเวลาเลยครับ
สมกับเป็นเกาะสวรรค์จริงๆ ครับ
สรุปแล้วเจ้านี่เหมาะ สำหรับผู้ที่อยากลองเข้าสู่ SM จากสาย Isle หรือ Islay ครับ
ด้วยความที่รสชาติไม่ห่างจากสาย Highland กับ Speyside สักเท่าไหร่
แต่ก็มีความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์อยู่ครับ
ในเรื่องของกลิ่น peat กับกลิ่นควันจางๆ ถึงเบามากๆ (ชนิดที่ว่าต้องซ้ำหลายๆ ครั้งกว่าจะจับได้บ้าง)
ส่วนตัวผมนั้นต้องคอยเบรคตัวเองแล้วครับ เพราะเจ้านี่ลื่นเชียวครับ
อีกทั้งแต่ละครั้งที่ยกจิบ มักจะได้รสชาติแฝงมากขึ้นมาเรื่อยๆ ทำให้หลงรักเจ้า JURA นี่เข้าแล้วล่ะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น