เหล้าบ้านนายใหญ่หมดไปเมื่อหลายวันก่อน มองในตู้เห็นเจ้าขวดนี้อายุตั้งแต่ปี 2549 ผ่านเข้ามา 6 ปี
เกรงว่าคุณภาพมันจะไปซ่ะก่อน แล้วจะเจอภาวะเหมือนกับเจ้า Glen Elgin ที่ทำเอาเข็ด เลยตัดใจเปิดซ่ะเลยดีกว่า
ว่าแล้วก็มาเริ่มกันตามสไตล์ลิ้นบ้านๆ กันเลยก็แล้วกันครับ
เริ่มกันที่สีก่อนก็แล้วกันครับ ออกไปทางทองอำพันดูแล้วสบายตาดีครับ ขานั้นค่อนข้างหนืดไหลช้าลงมาพร้อมๆ กันเลยเชียวครับ
ด้านกลิ่นนั้นผมว่ามันก็หอมดีอยู่ครับ แต่.... มันไม่ไหลมาเรื่อยๆ เหมือนกับพวก SM ครับ
รินทิ้งไว้ตั้งนานมันยังไม่ยอมมาเตะจมูกผมสักทีอ่ะ
ยกขึ้นมาดมจ่อๆ ถึงได้กลิ่นแนวทางของ Highland เจือด้วยกลิ่นแห้งๆ ของ Speyside คละๆ กันอยู่ครับ
แต่กลิ่นที่ชัดสำหรับผมคือกลิ่นของโอ๊ก กับ Malt ที่ค่อนข้างชัดครับ ตามด้วยกลิ่นวนิลา กับกลิ่นเปรี้ยวนิดๆ ของ Citrus
ผมว่ามันยังมีกลิ่นของน้อง L ด้วยอ่ะครับถ้าเทียบกับ SM หลายตัวที่อยู่ 10 ปีนี่บางตัวแทบไม่มีกลิ่นน้อง L เลยอ่ะครับ
รวมๆ ผมว่ามันก็คงประมาณนี้ครับสำหรับเหล้า Blended High-end ขวดนี้
อืม... จิบแรกรู้สึกได้ถึงความอุ่น ที่ให้ความรู้สึกว่ายินดีต้อนรับ ตามด้วยความหวานนำ จนรู้สึกได้ถึงคำว่าหวานขมนิดๆ
ลื่นแต่ให้ความรู้สึกเผ็ดร้อนอยู่ในที burn นิดๆ แต่ไม่มากให้สัมผัสถึงความเปรี้ยวนิด หวานหน่อยที่ผสานกันได้อย่างลงตัว
เนื้อไม่แน่นมากเหมือนกับ SM แต่ก็ประทับใจดี ไม่ผิดหวังครับสำหรับ High-end Blended Whisky ขวดนี้
ดีกว่าเจ้า Ballantine's 21 Yo เยอะเชียวครับ จบด้วยความแห้งนิดๆ ควันจางๆ ฉ่ำหน่อยๆ ตบท้ายด้วยน้ำเย็นๆ นี่เยี่ยมไปเลยครับ
สรุปแล้วสำหรับผม เจ้า JW Blue Label ขวดนี้คุ้มค่าสมราคาครับ แต่ถ้าบ่อยๆ คงไม่ไหวครับ
ถึงจะเป็นค่าตัวที่ได้จาก Duty Free ก็เถอะครับ เก็บไว้ดื่มในโอกาสสำคัญๆ ดีกว่าครับ
ประทับใจกับรสชาติที่ยกดื่มแต่ละครั้งให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันไปเรื่อยๆ
บางทีได้อโรม่าหอมๆ เหมือน Highland SM
บางครั้งก็ให้ความรู้สึกแห้งหน่อยๆ ตอนจบเหมือนกับเหล้าจาก Speyside
บางคราวกลับให้กลิ่นควันนิดๆ จากถิ่น Islay รวมๆ แล้วประทับใจดีครับ
แต่.... ด้วยค่าตัวค่อนข้างสูงทั้งในบ้านเรา และตาม Duty Free
ผมแนะนำว่าจับ SM รุ่นยอดนิยมน่าจะดีกว่าสำหรับคนงบน้อยนะครับ
แต่ถ้าในโอกาสพิเศษ หรือเพื่อสักครั้งในชีวิตว่าจะสัมผัสกับ High-end Blended Whisky ดีๆ สักตัวผมว่าไม่ควรพลาดกับเจ้า JW Blue Label ขวดนี้ครับ
แนะนำว่าให้หาซื้อ Premium Package ที่มีครบทั้งสี่สีของ JW ก็ได้ครับเพื่อเป็นการประหยัดเงินในกระเป๋าสำหรับคนงบน้อยครับ
เพราะคุณจะได้ลอง Black Green Gold(รุ่นเก่า) Blue ครบทั้งสี่ในราคาประมาณ สองพันกลางๆ ถึงปลายๆ จากตาม Duty Free นะครับ
ปล. 1. ความคิดเห็นทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ ไม่รับประกันความถูกต้องเหมือนเช่นเคยนะครับ
ผิดพลาดประการใดขอรับไว้เพียงลำพังครับ
ปล. 2. ขอบคุณไนท์ด้วยครับ สำหรับแก้วสวยๆ Blue Label อุปกรณ์ประกอบฉากครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น