พวกผมแค่ชมชอบในรสชาติของสุรา เรื่องราวที่เขียน เริ่มต้นจากความชอบและความสนใจ ที่นำไปสู่การค้นหา
เมื่อได้รับรู้ และทดลองด้วยตัวเองแล้วก็อยากแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ และคนอื่นๆ ที่สนใจในเรื่องเดียวกันครับ

ข้อคิดเห็นที่ให้เกี่ยวกับเรื่องการร่ำสุราในแต่ละประเภท เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ที่ได้มาจากการลองของด้วยตัวเอง
ที่แค่อยากรู้ และอยากลองตามประสาครับ ผิดถูกประการใดก็คงไม่สามารถรับรองได้ครับ ขอน้อมรับคำแนะนำ และติชมทุกประการครับ


*** หมายเหตุ *** สงวนสิทธิ์สำหรับการอ่านและนำไปใช้ประกอบบทความเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้กัน และไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ทุกอย่างครับ

วันเสาร์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2558

East Meet West Blended Malt Whisky #1

ขอทดสอบเหล้าที่ผสมขึ้นเองโดยให้ชื่อว่า East Meet West Blended Malt Whisky #1
ตัวเหล้าประกอบด้วยส่วนผสมดังนี้
1. Kavalan Port Cask  100 ml.
2. Nikka All Malt  120 ml.
3. Nikka Pure Malt  100 ml.
4. Yamazaki Non-Age  80 ml.
5. Ardbeg 10  80 ml.
6. Glenfiddich 15 Yo.  60 ml.
7. Glenlivet Founder's Reserve  80 ml.
8. Highland Park Dark Origins  100 ml.
9. Laphroaig PX Cask  40 ml.


ส่วนตัวแล้วผมมีความเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า 
"เมื่อเราจะทำอะไรที่กินได้ เมื่อใช้วัตถุดิบที่ดี และเรามีความตั้งใจที่จะทำแล้ว ของที่ออกมานั้นต้องดีแน่นอน"
มาพิสูจน์ความคิดนี้กันดีกว่าครับ ว่ากันตามประสาลิ้นบ้านๆ ไม่รับประกันความถูกต้องเหมือนเช่นเคย
และอาจมีการอวยตัวเองด้วยเล็กน้อยนะครับ

เริ่มกันที่สี ออกทองใสๆ ตามประสาสัดส่วนของเหล้า Non-Age ที่เป็นส่วนผสมหลักเลยก็ว่าได้

กลิ่น ออกทางผลไม้รสเปรี้ยว ที่เรียกว่า Citrus บ๊วยเล็กน้อย เจือด้วยกลิ่นลูกเกต Sherry Oak นิดๆ
เจือด้วยกลิ่นไอทะเลเล็กน้อย ควันค่อนข้างเบาบาง (เพราะไม่เน้นสายควันกลัวกลบกลิ่นอื่น)
สัมผัสคล้ายสายลมแห้งๆ แต่เย็นชื่นใจของฤดูหนาว (อันนี้โม้เพราะดื่มในฤดูหนาวไงตัวเธอ)


ต่อกันที่ด้านรสชาติบ้าง 
กลิ่นดี รสชาติตกนี่ หล่นเลย 
จิบแรกที่เข้าไปยังไม่แสดงตัวเองมากนัก 
แล้วก็เริ่มทักทายด้วยความซ่า และเผ็ดร้อนของส่วนผสม Non-Age ตามมาด้วยกลิ่นควัน peat ที่คุ้นเคยผิดกับกลิ่นตัวเมื่อตอนดม กลบด้วยความหลากหลายของความหวานหอมของสาวฝั่งเอเชีย และ Scotch ที่ผลัดกันดันตัวเองขึ้นมาให้เชยชม
อวดตัวเองว่าเป็นลูกผสมที่ลงตัว


After Taste จัดว่าสั้นไปสักนิด แต่รวมๆ แล้วจัดว่าน่าประทับใจ
ให้สัมผัสที่หลากหลาย ร้อนรุ่ม และอ่อนหวาน คละเคล้า ผสานกันได้อย่างลงตัว
Conclusion เหมือนสาวน้อยลูกครึ่งที่อ่อนหวานเรียบร้อยสไตล์สาวเอเชีย เมื่อแรกพบประสบหน้า
แต่ร้อนแรงในลีลา เร่าร้อนเมื่อได้สัมผัส ชวนให้วาบหวาม และหลงใหลได้ง่ายเหมือนสาวรุ่นจากฝั่งตะวันตก

ว่าแต่หมดแล้วผมก็ผสมใหม่ไม่ได้เพราะส่วนผสมหลายตัวหมดแล้ว คงได้แต่บันทึกสูตรเอาไว้ให้เพื่อนๆ ได้ลองจัดหามาเล่นกัน ส่วนตัวผมนั้น เริ่มมีโครงการ 2 เอาไว้ในใจเรียบร้อยละครับ 

วันเสาร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เมาไม่รั่วมั่วส่งการบ้านกับ Chivas Regal Mizunara 12 Yo.

สำหรับเจ้า Chivas Regal Mizunara 12 Yo ขวดนี้ก็ได้รับการส่งมาให้จากเพื่อนใหม่แปลกหน้าอีกแล้วครับ จากคุณ LoveLove Love ต้องขอขอบคุณจากใจอีกครั้งครับ

สำหรับเจ้านี่เหมือนว่าเป็นการนำไป Finished ใน Japanese Oak Cask ที่เรียกกันว่า Mizunara นั่นแหละครับ ว่ากันเรื่อยๆ ตามประสาลิ้นบ้านๆ ส่วนข้อมูลรบกวนลอง Google ดูก็แล้วกันเนาะ ผมแนวลองไม่ใช่แนวเน้นข้อมูลนะฮ่ะ

มาว่ากันที่สีก่อนละกันครับ  ทองอำพันใสๆ ที่เรียกกันว่า Amber Gold

กลิ่น Aroma ค่อนข้างดีจัดว่าแปลกกว่า Chivas ตัวอื่นๆ เท่าที่เคยได้ลองมาครับ Citrus, Oak อ่อนๆ ละมุน ไม่จัดจ้านเหมือน Oak จากฝั่งยุโรป เหมือนเดินอยู่กลางดงดอกไม้ของเอเชียที่หอมๆ

รสชาติ หวานนำ เจือด้วยกลิ่น Oak อ่อนๆ เหมือนสาวแรกรุ่นที่ไร้จริต อ่อนหวานเหมือนดอกไม้แรกแย้ม สร้างความประทับใจได้แบบเรียบง่ายสไตล์สาวญี่ปุ่นก็ว่าได้ครับ

After Taste ค่อนข้างยาว Oak อ่อนๆ ตีกลับขึ้นมาพร้อมด้วยกลิ่นดอกไม้หอมๆ พร้อมกับ Citrus ที่ค้างวนๆ อวลอยู่ในช่องปาก สร้างความประทับใจได้พอๆ กับ Single Malt ดีๆ ได้สบาย หรือจะข้ามรุ่นไปชกกับพี่สาววัย 18 ก็ยังพอไหวครับ

Conclusion หากมีโอกาสเจอหน้าก็หามาลองเถอะครับ รสชาติชวนถวิลหา เหมือนสาวน้อยวัยใส ให้ความประทับใจแรกแย้ม อ่อนโยนไร้จริต เรียบง่ายสไตล์สาวญี่ปุ่นจริงๆ ครับ

ป.ล. ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ไม่รับประกันความถูกต้องเหมือนเช่นเคย ดีที่สุดคือหามาลองด้วยตัวเองครับ

เมาไม่รั่วมั่วส่งการบ้านกับ Laphroaig 10 Unblended Islay Malt Scotch Whisky

ได้รับแบ่งปันน้ำใจเจ้า Laphroaig 10 Unblended Islay Malt Scotch Whisky ขวดนี้มาจากคุณ LoveLove Love
ตอนแรกเข้าใจว่าน่าจะเป็นตัวยุคแรกๆ ของ Laphroaig แต่หลังจากได้ชิมแล้วคิดว่าไม่น่าจะใช่รุ่นเดียวกันกับโฉมปัจจุบัน
แต่ก็อาจเป็นที่รสชาติเปลี่ยนเพราะเก่าเก็บ เป็นไปได้ทั้งสองแบบ ไม่ขอสรุปในเรื่องนี้ครับ

คราวนี้เรามาว่ากันตามประสาลิ้นบ้านๆ ดีกว่าเนาะ

เริ่มที่สี ออกทางทองใสๆ ดูเหมือนว่าจะเข้มกว่าตัว Laphroaig 10 โฉมปัจจุบันเล็กน้อย ดูแล้วเหมือนสีทองอำพันเข้มๆ ครับ

ว่ากันต่อที่กลิ่น กลิ่นอันแสนคุ้นเคยของน้องสาหร่ายมาครบ กลิ่นคุ้นเคยที่เรียกว่า Hospital Smell ก็มา แต่กลิ่นเหมือนไม่ใช่ Dettol (แปลกที่ 1) อ่าวๆๆๆ ไม่มีกลิ่น Peat (แปลกที่ 2) เสริมด้วยกลิ่น Citrus และ Caramel อืม... หรือจมูกผมจะเพี้ยน... ดมอยู่หลายรอบก็ยังเป็นเช่นเดิมครับ จมูกบ้านๆ คงได้แค่นี้จริงๆ

มาว่ากันต่อที่รสชาติแบบลิ้นบ้านๆ กันบ้างดีกว่าเนาะ
จิบแรกที่เข้าไปรู้สึกได้ถึงความหวานละมุ่น ตามด้วย Carbon ยาสูบ ควันเล็กน้อย จัดว่าต่างจากโฉมปัจจุบันอยู่พอควร โดยเฉพาะเรื่อง Peat ที่ไม่ได้กลิ่นเอาเลยครับ ละม้ายไปทาง Select Cask มากกว่า แต่ให้สัมผัสและ Balance ที่ Smooth กว่ากันเยอะครับ

After Taste ค่อนข้างยาว ทิ้งกลิ่นยาสูบ ควันเบาๆ ความหวานแบบชวนถวิลหา เมื่อเทียบกับโฉมปัจจุบันแล้วน่าคบหากว่า แต่อย่างที่บอกครับ อาจเป็นที่รสชาติเปลี่ยนเพราะเก็บมานานได้เช่นกัน

Conclusion ติดใจครับหมดแล้วจะหาจากหนาย ราคาเท่าที่ลองค้นดูชายก็รับม่ายด้าย....  

ขอบคุณ คุณ LoveLove Love ที่ส่งมาให้ลองครับ

ป.ล. อย่าเชื่อจนกว่าจะได้ลองด้วยตัวเองครับ รีวิวกากๆ ลิ้นบ้านๆ ไม่รับประกันความถูกต้องเหมือนเช่นเคยครับ

วันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เมาไม่รั่วมั่วส่งการบ้านกับ Johnnie Walker XR 21 Yo

ขอเข้าเรื่องกันตามประสาลิ้นบ้านๆ เลยก็แล้วกันครับ

สี ค่อนข้างเข้มเจือทองแดง ดูแล้วน่าจะผ่านการ Finished ใน Sherry Oak Cask

กลิ่น ลูกพรุน วนิลา Citrus Aroma ค่อนข้างดีเลยเมื่อเทียบกับสีอื่นๆ ของเหล้าจากตระกูลนี้ มีกลิ่นไอของ Platinum Label อยู่พอสมควร แต่ให้ความรู้สึกเข้มข้นกว่า

รสชาติ เห้ย... คือมันดีงามกว่า JW ตัวอื่นๆ ที่เคยผ่านมารวมถึง Blue Label ให้สัมผัสที่ละมุน ลูกพรุน ควันเบาๆ เชอรี่ Balance จัดว่าดีงาม

After Taste ค่อนข้างยาว ลูกพรุน เชอรี่ และ Oak หอมๆ

Conclusion น่าสนใจ งดงามตามท้องเรื่อง ค.ห.ส.ต. JW ทำตัวนี้ออกมาได้สมกับความเป็น Extra Rare มากครับ
ถ้าราคาประมาณ Duty Free ที่ขายๆ กันอยู่คือไม่เกินสามพันบวกลบ นี่คือสมราคาเลยครับ ส่วนบ้านเรามีแสตมป์เท่าที่เห็นก็ห้าพันบวก ก็ยังจัดว่าดีงามกว่าฉลากน้ำเงินครับ
ใครจะบวกไม่บวกก็แล้วแต่กำลังทรัพย์ในกระเป๋าท่านก็แล้วกันนะครับ อย่าให้เดือดร้อนตัวเองก็พอครับ

เมาไม่รั่วมั่วส่งการบ้านกับ Remy Martin XO

การบ้านขวดเล็กนี้รับมาจากเฮีย City ร่วมปีมาแล้ว
เนื่องจากว่าไม่ค่อยชินกับแนวนี้เท่าไหร่จึงผัดผ่อนมานาน
ส่งการบ้านดีกว่าเผื่อเฮียจะมีขวดใหม่มาให้ชิมอีก
มาว่ากันตามประสาบ้านๆ กันเถอะ
สี ทองแดงเข้มๆ ออกทางสีเลือดหมูนิดๆ

กลิ่น ไร้กลิ่นตัวน้องแอลมารบกวน จับได้กลิ่นดินเล็กน้อย หนักไปทางกลิ่นองุ่น
ได้กลิ่นไอของ Single Malt ที่ผ่านการบ่มด้วย Sherry Oak Cask

รสชาติ นุ่มนวลแต่แฝงความเผ็ดร้อนอยู่ในที เข้าใจเลยว่าทำไมต้องเป็น Cognac
และ Cognac ชั้นดีเป็นเช่นไร ให้สัมผัสชวนฝัน กลิ่นดิน องุ่นชัดเจน และเผ็ดนิดๆ คล้ายความเผ็ดของพริกไทย

After Taste ยาวเหยียด ให้ความอบอุ่นที่ชวนถวิลหา กลิ่นดิน ยาสูบจางๆ ค้างอวลๆ วนอยู่ในช่องปาก 

Conclusion อย่าไปยุ่งกับ VS / VSOP ให้เสียเวลาเลยครับ หากกำลังทรัพย์ถึง หรือไม่เดือดร้อนกับตัวเอง จัด XO ไปเลยดีกว่าครับ  ในวันสบายๆ เพลงที่ชอบจิบเบาๆ เคล้าเสียงเพลงก็เห็นสวรรค์รำไรอยู่ไม่ไกล