พวกผมแค่ชมชอบในรสชาติของสุรา เรื่องราวที่เขียน เริ่มต้นจากความชอบและความสนใจ ที่นำไปสู่การค้นหา
เมื่อได้รับรู้ และทดลองด้วยตัวเองแล้วก็อยากแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ และคนอื่นๆ ที่สนใจในเรื่องเดียวกันครับ

ข้อคิดเห็นที่ให้เกี่ยวกับเรื่องการร่ำสุราในแต่ละประเภท เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ที่ได้มาจากการลองของด้วยตัวเอง
ที่แค่อยากรู้ และอยากลองตามประสาครับ ผิดถูกประการใดก็คงไม่สามารถรับรองได้ครับ ขอน้อมรับคำแนะนำ และติชมทุกประการครับ


*** หมายเหตุ *** สงวนสิทธิ์สำหรับการอ่านและนำไปใช้ประกอบบทความเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้กัน และไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ทุกอย่างครับ

วันพุธที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2556

Ardmore Highland Single Malt : Peated

สำหรับเจ้า Ardmore ขวดนี้ผมรับช่วงแลกมาจากเพื่อนร่วมอุดมการณ์ เมื่อคราว mini meeting @ CNX ครั้งล่าสุดครับ
ตัวนี้ข้อมูลเบื้องต้น เป็น Traditional Cask "Quarter Casks" Style. Unique Highland peat-smoke notes. ครับ

ว่ากันแบบลิ้นบ้านๆ เหมือนทุกครั้งไม่รับประกันความถูกต้องเหมือนเช่นเคยนะครับ 

เริ่มกันทีสีก่อนครับ ออกแนวทองแดงเมื่ออยู่ในขวด แต่เมื่อรินออกมาสีดูจางลงไปเล็กน้อยออกไปทาง Amber ครับ
ขาค่อนไปทางกลางๆ ไหลไม่เร็วไม่ช้าครับ เนื่องจากไม่บอกอายุ ผมขอเดาว่าน่าจะน้อยกว่าสิบปีครับ

กลิ่นค่อนข้างดีครับ  peat จางๆ ไม่มากเหมือนเหล้าจากถิ่นชาวเกาะ oak ค่อนข้างชัด เจือด้วยอโรม่าหอมๆ ของดอกไม้นิดหน่อย
ไม่มีกลิ่น Citrus ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Highland ครับสำหรับเจ้า Ardmore ขวดนี้ แปลกจัง 

ต่อกันที่รสชาติเลยก็แล้วกันนะครับ
กลิ่นควันค่อนข้างชัดดีครับเมื่ออยู่ในปาก มีอาการ burn เล็กน้อยไม่มากนักครับติดออกหวานหน่อยๆ แต่จบแบบแห้งๆ แต่ไม่มาก
peat ไม่เยอะเหมือนที่คิด แต่ควันพอประมาณไม่มากเหมือนสายชาวเกาะ ติดเผ็ดพอประมาณครับ รวมๆ ถือว่าดี
ทิ้งความแห้งๆ เหมือนสูบบุหรี่หมดมวนพอดีไว้ในปาก ก้ำกึ่งระหว่างว่าจะสูบต่อดีหรือ สักพักค่อยสูบต่อ ไม่ค่อยมีกลิ่นน้องแอลครับ

After taste ไม่ยาว แต่ก็ไม่สั้นมากอารมณ์เหมือนที่ว่ามาด้านบนครับ

สรุปเลยละกันครับ สำหรับเจ้าขวดนี้เป็นรสชาติที่แปลกดีสำหรับ Highland Whisky ที่ไม่เหมือนตัวอื่น 
เหมาะสำหรับคนอยากลองความแปลกใหม่ แต่ไม่ชอบ peat หนักๆ ควันเยอะๆ ของสายชาวเกาะ
รสชาติก้ำกึ่งเหมาะสำหรับเปลี่ยนบรรกาศ เบื่อๆ ความหวานๆ ฉ่ำๆ ของ Highland แต่ยังรัก Highland อยู่ก็แวะมาหาได้
สำหรับคนอยากลองเสพควัน แต่ไม่ชอบกลิ่นสะอาดของ Laphroaig กลิ่นควันจัดๆ peat หนักๆ ของชาวเกาะ ก็หามาลองกันได้ครับ

กับผมแล้วลองเสร็จอยากคว้า Laphroaig ที่เพิ่งได้มาเปิดให้รู้แล้วรู้แรดไป  จ๊าก ตูม



วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2556

Johnnie Walker Double Black Limited edition

สำหรับวันนี้ของผมจะเป็นรุ่น Limited Edition ครับ ต่างจากของคุณตือที่เป็นรุ่นใหม่ที่ไม่มีคำว่า "Limited Edition" แล้วนะครับ ว่ากันตามประสาลิ้นบ้านๆ ไม่รับประกันความถูกต้องเหมือนทุกครั้งนะครับ


เริ่มกันที่สี เช่นเดียวกับที่คุณตือว่าไว้ครับ สีออกไปทางทองแดงเข้มๆ
ด้านขาผมไม่มั่นใจว่าเร็วกับช้าของผมกับคุณตือต่างกันหรือปล่าว ผมกับมองว่ามันไหลลงไม่ถึงกับเร็วมาก ขนาดของขากันค่อนไปทางกลางๆ มากกว่า (เรื่องขนาดขาก็เช่นเดียวกันครับ อาจให้คำว่าเล็ก กลาง ไม่เท่ากันก็ได้นะครับ)

มาว่ากันที่กลิ่นต่อเลยนะครับ มันค่อนข้าง Aroma ดีมากๆ ครับ ออกไปทาง Citrus วนิลา
เจือด้วยควันจางๆ กลิ่นตัวน้องแอลไม่ค่อยมีครับ แถมด้วยกลิ่นน้ำผึ้งค่อนข้างดีเชียวครับ

ปล. ผมเทพักไว้ค่อนข้างนาน ครับเพราะทำงานไปด้วย กลิ่นหอมเตะจมูกค่อนข้างดีเชียวครับ

ต่อกันที่รสชาติเลยก็แล้วกันครับ
หวานนำ ควันค่อนข้างเด่น รสชาติละมุ่นลิ้นดีครับ ไม่มีรสเผ็ดซ่าในปาก ดีกว่าตัว Platinum ที่ค่อนข้างจืดครับ ตัวนี้ทำได้ดีกว่าเยอะครับ
เทียบกับ Black แล้วตัวนี้เด่นกว่า ดื่มแบบ Neat ธรรมดาได้สบายๆ เลยครับ นุ่มมากๆ ครับ

เรื่องรสชาติแล้วผมเห็นด้วยกับตือครับ เพราะได้ลองดื่มตัวธรรมดาที่ไม่มีคำว่า "Limited Edition" แล้วมันจืดว่านี้และเผ็ดกว่าครับ
เจ้าตัวนี้นุ่มกว่า แล้วก็นิ่มกว่าเยอะครับ จบแบบค่อนข้างยาวทีเดียวครับทิ้งความฉ่ำไว้ในปากค่อนข้างนานกว่าครับ


สรุปแล้ว ช่วงนี้ผมกำลังอยากได้สายควันมาดับความต้องการ Laphroaig ได้เจ้านี้มาก็พอดับกระหายไปได้สักหน่อยครับ ขาดก็แต่กลิ่น peat กับ น้องสาหร่ายคิดถึงจังเลยครับ

รวมๆ แล้วเจ้า JW Double Black Limited Edition ขวดนี้ทำได้ค่อนข้างประทับใจครับ
ยิ่งถ้าเทียบกับตัวที่ไม่มี Limited ด้วยแล้วตัวนั้นเหมือนดีกว่า Black นิดหน่อยครับ หรืออาจพอๆ กันก็ว่าได้ครับ

ความคิดเห็นทั้งหมดเป็นความรู้สึกส่วนตัวล้วนๆ ไม่รับประกันความถูกต้องนะครับ


วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2556

The SIX Isles 43% เหล้าน้องใหม่รสชาติน่าสนใจ



กราบสวัสดีปีใหม่ 2013 เพื่อนๆ ครับ ปีนี้ผมก็ขอให้เพื่อนๆ มีความสุขสมหวังในทุกประการ ปราศจากโรคภัย และที่สำคัญขอให้มีสติในการดื่มทุกครั้งครับ



เริ่มต้นปีใหม่ผมก็ต้องหาอะไรใหม่ๆ มารีวิวให้เพื่อนๆ ได้อ่านแต่ด้วย Single Malt ที่ผมพอจะหาได้แถวนี้ก็ลองแทบจะหมดทุกตัวแล้ว แต่ก็ยังไปบังเอินเจอตัวที่หน้าตาประหลาดไม่เคยเห็นที่ไหนชื่อว่า "The SIX Isles" เหล้าขวดนี้บรรจุมาในกล่องเหล็กสวยงามอ่านสรรพคุณแล้วได้ความว่าเป็น Blended Malt Whisky โดยใช้ Malt Whisky จาก 6 เกาะใน Scottland ได้แก่ Islay, Jura, Skye, Orkney, Mull, Arran ซึ่งไอ้ 4 เกาะแรกผมเคยลองแล้วมันสายควันชัดๆ (แม้ว่า Jura จะควันน้อยไปหน่อย) ลองเปิดกล่องดูสีก็เป็นสีที่คุ้นตาสำหรับเหล้าสายควัน บรรจุแบบ unchill-filtered ที่ 43ดีกรี เอาวะลองลุ้นดูเผื่อมีเฮ


Appearance: สีทองใส (pale glod) ขาขนาดกลางไหลช้า

Aroma: กลิ่นน้ำผึ้ง วนิลา กลางๆ ตามมาด้วยควันกล่อง Cigar
Taste: หวานค่อนข้างชัด มีเค็มแทรก สัมผัสเผ็ดร้อน กลิ่นควันชัดมาก และโอ๊ค น้ำผึ้ง คาลเมล มาเป็นระยะ บอร์ดี้กลางๆ ไม่หนักมาก

With Water: รสหวานชัดเจน ควันก็มาแบบชัดๆ แทรกด้วยกลิ่นสมุนไพรโทนอ่อนๆ จำพวกอบเชย

Finish: Dry ทิ้งสัมผัสเผ็ด รสขมๆ หวานๆ ควันอ่อนๆ ค่อนข้างนานพอสมควร





สรุป: เหล้าที่มาผสม The SIX Isles น่าจะเป็นเหล้าอายุไม่เยอะเพราะห้าวเหลือเกินรสชาติจะหนักไปทาง Islay กับ Skye สำหรับผู้ที่ชอบสายควันหากเจอเจ้านี่ก็น่าหามาลองครับ เพราะเท่าที่ผมเคยดื่มเหล้าสายควันที่มีจำหน่ายในบ้านเราในราคาเท่ากันนี้ ยังไม่มีตัวไหนให้น้ำหนักของควันและรสชาติที่ clear ได้ขนาดนี้ครับ ซึ่งตัวนี้ทำได้ดีเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นเข้าสายควันไปจนถึงระดับโปรฯ เลยทีเดียวครับ

มีคำกล่าวให้ credit ของคุณ Jim Murrayใน Whisky Bible 2004 ไว้ว่า "The best standard, non-deluxe vatted malt I have found in my lifetime"

วันอังคารที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2556

Famous Grouse Malt Whisky 21 Yo.

สวัสดีปีใหม่ครับ เพื่อนๆ สมาชิกทุกคน ห่างหายจากการรีวิวไปนานเลยครับ
วันนี้ขอรับปีใหม่ด้วยเจ้านี่เลยครับ Famous Grouse Malt Whisky 21 Yo 
สำหรับเจ้าขวดนี้ต้องยอมรับว่าคุ้มค่าสมราคาครับ จริงๆ ผมเปิดลองไปนานแล้วครับ แต่ไม่มีเวลารีวิวเลยครับ
วันนี้ปีใหม่ขอเริ่มต้นด้วย FG Malt Whisky ขวดนี้ก็แล้วกันครับ เพราะลองเพลินจนเหลือแก้วสุดท้ายแล้วครับ 
Package ดูดีสมราคา ยิ่งรสชาติด้วยแล้วแจ่มมากๆ ครับ
ว่าแล้วเราก็มาเริ่มกันแบบลิ้นบ้านๆ กันเลยครับ

เริ่มที่สีเหมือนเดิมครับ สีออกทองแดงเข้มๆ ด้วยอายุที่หมักบ่มนานถึงยี่สิบเอ็ดปี
ต่อด้วยขาใหญ่หนักไหลอืดอาดมากทีเดียวเชียวครับ

ด้านกลิ่นนั้น หอมทั้ง Oak Malt วนิลา เจือด้วย citrus ค่อนข้างเข้มข้น ยั่วใจเตะจมูกซ้ำไปมา ยิ่งเทพักไว้ตามธรรมเนียมยิ่งยั่วใจหลายครับ
กลิ่นน้องแอลไม่มีมาให้แสบจมูกแม้แต่น้อย

สัมผัสแรกนั้นมาเต็มๆ Full body มากมาย ซ่าๆ อยู่ทั่วปาก หวาน มัน หอมอวลยวนใจจริง

Finish ยาวเหยียด หวานค้างคาอยู่ในปาก และลำคอ ชวนให้อยากซ้ำแล้วซ้ำอีก
พบเจอเจ้านก Grouse 21 ปีตัวนี้ทีไรไม่เคยต้องต่ำกว่า 3 ช็อตทุกครั้งประทับใจมากมายครับ
สำหรับผมแล้วตัวนี้แจ่มครับ  ว่าแต่ว่ามันหมดแล้วผมจะไปหาเพิ่มได้ไงง่า.... จิ้มมม

ปล. ความคิดเห็นทั้งหมดเป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ไม่อิงตำราใดๆ และไม่รับประกันความถูกต้องเหมือนเดิมครับ

ปล. 2 แก้วรอบนี้เป็นแก้วที่เคยเห็นคุณเม้งเอามาใช้ตอน meeting ปีก่อนนู้นที่ลงไปเจอกันที่ กทม. หามานานแล้วครับกว่าจะได้มันแปลกดีครับ เหมาะอยู่เหมือนกันที่จะเอามาดื่มครับ แต่ต้องระวังเรื่องกลิ้งหล่นอยู่พอควรครับ