พวกผมแค่ชมชอบในรสชาติของสุรา เรื่องราวที่เขียน เริ่มต้นจากความชอบและความสนใจ ที่นำไปสู่การค้นหา
เมื่อได้รับรู้ และทดลองด้วยตัวเองแล้วก็อยากแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ และคนอื่นๆ ที่สนใจในเรื่องเดียวกันครับ

ข้อคิดเห็นที่ให้เกี่ยวกับเรื่องการร่ำสุราในแต่ละประเภท เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ที่ได้มาจากการลองของด้วยตัวเอง
ที่แค่อยากรู้ และอยากลองตามประสาครับ ผิดถูกประการใดก็คงไม่สามารถรับรองได้ครับ ขอน้อมรับคำแนะนำ และติชมทุกประการครับ


*** หมายเหตุ *** สงวนสิทธิ์สำหรับการอ่านและนำไปใช้ประกอบบทความเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้กัน และไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ทุกอย่างครับ

วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ในวันฝนพร่ำกับ JW Plantinum Label.


สำหรับเจ้า JW Platinum Label ขวดนี้ผมเปิดลองมานานพอควรแล้วครับ ยังไม่ได้นำมาบอกเล่าสู่กันฟังสักที
วันนี้สบโอกาสฝนพร่ำมาตั้งแต่เช้า และหยุดดื่มมาพอควรเลยเลือกมาแก้หนาวสักหน่อยครับ
สำหรับเจ้า Platinum Label ขวดนี้เข้าใจว่าจัดทำขึ้นมาในโอกาสพิเศษช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ข้อมูลนี้ผมไม่มั่นใจนะครับ
แต่พักนี้ก็ไม่ค่อยจะเห็นตามห้างต่างๆ แล้วครับ ว่าแล้วเราก็มารีวิวกันแบบบ้านกันดีกว่าครับ

เริ่มที่สีก่อนเหมือนทุกครั้งนะครับ สีออกไปทางทองแดงเข้มๆ ตามอายุเหล้าที่บ่มนานถึง 18 ปีครับ
ด้านขาหนักใหญ่ไหลอืดเชียวครับ


ด้านกลิ่นนั้นหอมไปทางของ SM พอประมาณครับ จับได้กลิ่นหอมๆ ของโอ๊ก วนิลา Malt หอมๆ

กลิ่นเหล้าทาง Highland Malt ที่เด่นสุดก็กลิ่น citrus แต่ก็ไปกลิ่นจางๆ กลิ่นน้องแอลค่อนข้างเจือจางไม่ดุครับ อโรม่าพอประมาณ บัตเตอร์สก๊อตนิดๆ เรียกได้ว่าดมแต่ละครั้งก็ได้กลิ่นที่ต่างๆ กันออกมาเรื่อยๆ

มาต่อกันที่รสชาติบ้างดีกว่าครับ จืดกว่าที่คิดไว้ครับ เมื่อเทียบกับกลิ่น ผมว่ารสมันติดไปทาง Clynelish กับ Highland Park ปนๆ กันอยู่ครับ จบแบบควันนิดๆ ชนิดต้องจับสังเกตุค่อนข้างเยอะเชียวครับ

ข้อดีคือ เนียน และลื่นดีครับ แต่ข้อเสียที่ชัดๆ คือ จืด เหมาะกับแบบ Neat ที่สุด ไม่เหมาะกับผสม หรือ on the rock เพราะคงต้องเปลืองเนื้อเหล้าพอควรเพื่อให้ได้รสชาติครับ

After taste กลางๆ ยาวพอควรจบแบบไม่ฉ่ำ และไม่แห้งมากนักครับ ทิ้งกลิ่นอวลๆ ไว้ในปากพอประมาณ




สรุปแล้ว
ในวันฝนพร่ำ หาหนังสือดีๆ สักเล่ม นั่งจิบเจ้า JW Platinum Label ขวดนี้ไป คงมีความสุข และผ่อนคลายอารมณ์ได้ดีเชียวครับ กับความเนียน ลื่นๆ และกลิ่นที่ชวนดื่ม แต่คงไม่เหมาะที่จะนำไปนั่งสังสรร พูดคุยเฮฮากันสักเท่าไหร่ครับ

กับราคาที่ค่อนข้างจะสูงพอประมาณที่สองพันกลางค่อนไปทางปลาย แล้วแต่ความสามารถในการจัดหา
ผมว่าหา SM อายุน้อยรสชาติพอกันได้ดีกว่าเยอะครับ คงเดากันได้นะครับว่าตัวไหน อิๆ

ปล. ความเห็นทั้งหมดเป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ ไม่รับรองความถูกต้องเหมือนทุกครั้งครับ




วันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Highland Park Vintage 1978, 23 years old



    หลังจากตรากตรำทำงานมาหลายเดือน มาเดือนนี้ได้ไปเที่ยวกับท่านผบ.ทบ. ที่กระบี่เติมพลังให้ชีวิตเบิกบาน เมื่อตกดึกก็ไม่วายต้องไปสำรวจบาร์ในโรงแรมซักหน่อย อื่มมี SM น่าสนใจอยู่หลายตัวราคาต่อแก้วก็ดุๆ ทั้งนั้น แต่เอ๊ะ!! มีSMจาก Highland Park ที่บรรจุโดยOld Malt Cask ซะด้วย Vintage ปี 1978 บรรจุปี 2001 อายุเหล้า 23ปี ราคาต่อแก้วถือว่าต่ำมากถ้าเทียบกับเพื่อนๆ ตัวอื่นบนชั้นวางเหล้า
 
       เหล้าจากสำนักที่ราบสูงนี้เป็นอะไรที่ผมโปรดปรานอยู่แล้วดังนั้นก็ไม่ต้องรีรอที่จะจัดมาซักแก้ว ความพิเศษของขวดนี้คือเป็น Single Cask กล่าวคือเป็นเหล้าที่ไม่ถูกเอาไปผสมกับเหล้าถังอื่น และไม่ถูกกรองด้วยกระบวนการ Chill Filtration และไม่มีการแต่งสีใดๆ คือมันออกมาจากถังยังไงก็อย่างนั้นเลย แต่ข้อสังเกตุของผมคิดว่าน่าจะมีการผสมน้ำเข้าไปก่อนที่จะมีการบรรจุ เพราะดีกรีแอลกอฮอล์ของขวดนี้อยู่ที่ 50% และมีการบรรจุจำนวน 606 ขวด ดังนั้นถ้าไม่มีการผสมน้ำเลยดีกรีน่าจะมากกว่านี้และจำนวนบรรจุน่าจะน้อยกว่านี้ด้วยครับ



Appearance: สีทอง ออกเหลืองใส (amontillado sherry) ขายาวใหญ่ไหลช้า
 
Aroma: น้ำผึ้ง คาลเมว วนิลา พีนัท และตามมาด้วยกลิ่นควันเบาๆ
 
Taste: เผ็ดลิ้นเล็กน้อยถ้าเทียบกับดีกรี มีรสหวานและเค็ม กลิ่นน้ำผึ้งกับควันเด่นมาก บอร์ดี้ชื่นช่ำในปาก
 
With Water: สัมผัสนุ่มขึ้น ความหวานยังคงเดิมกลิ่นน้ำผึ้งจางๆ มาพร้อมควันหนาๆ อบอวนอยู่ภายในปาก
 
Finish: ปลายทางสัมผัสเผ็ดลิ้นเล็กน้อยและแฝงความฝาดอีกนิดที่โคนลิ้น รสหวานฉ่ำยังอยู่ในปาก กลิ่นควันค่อยๆ ลอยขึ้นมา ยาวนานพอสมควร

สรุป: Vintage ขวดนี้ บอกความเป็น Highland Park ได้อย่างชัดเจนมี Balance ที่ดีมากกลิ่นต่างๆ ไม่ค่อยซับซ้อนชัดเจนมาเป็นจังหว่ะ ถ้ามีโอกาสก็อยากจะจัดหามาไว้ที่บ้านแต่อุปสรรค์ด้านราคาและแหล่งจัดหาผมคิดว่า Highland Park ในรุ่นมาตราฐาน 12ปี พอเทียบเคียงได้แต่ถ้าเทียบความนุ่มและความลึกของมิตินั้นตัวนี้ยังนำอยู่หลายชั้นครับ ราคาแก้วนี้อยู่ที่ 588บาทพร้อมของขบเคี้ยว ปริมาณเยอะพอสมควรอยู่ได้ชั่วโมงกว่า แถมขายอยู่ในโรงแรมด้วย สำหรับผมถือว่ากำลังดีไปทางคุ้มครับ