พวกผมแค่ชมชอบในรสชาติของสุรา เรื่องราวที่เขียน เริ่มต้นจากความชอบและความสนใจ ที่นำไปสู่การค้นหา
เมื่อได้รับรู้ และทดลองด้วยตัวเองแล้วก็อยากแบ่งปันให้กับเพื่อนๆ และคนอื่นๆ ที่สนใจในเรื่องเดียวกันครับ

ข้อคิดเห็นที่ให้เกี่ยวกับเรื่องการร่ำสุราในแต่ละประเภท เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ ที่ได้มาจากการลองของด้วยตัวเอง
ที่แค่อยากรู้ และอยากลองตามประสาครับ ผิดถูกประการใดก็คงไม่สามารถรับรองได้ครับ ขอน้อมรับคำแนะนำ และติชมทุกประการครับ


*** หมายเหตุ *** สงวนสิทธิ์สำหรับการอ่านและนำไปใช้ประกอบบทความเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้กัน และไม่อนุญาตให้คัดลอกบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ทุกอย่างครับ

วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Ballantine's Christmas Reserve Limited Edition


วนๆ กลับมาหาเหล้าตระกูลนี้อีกครั้งให้เข้ากับบรรยากาศ คริสต์มาสที่กำลังจะมาถึง เลยจัดให้เข้ากับบรรยากาศสักหน่อยครับ
Package สวยแปลกตาดีครับสำหรับเจ้า Ballantine's Christmas ขวดนี้
ฝาตอนแรกผมนึกว่าจะเป็นจุ๊กก๊อก แต่ก็เป็นฝาเกลียวธรรมดาครับ
กลิ่นเมื่อเปิดฝาขึ้นมาชวนให้นึกถึงผลไม้เมืองหนาว พวกแอ๊ปเปิ้ลเขียว สาลี่ ลูกแพร์ครับ
และเมื่อรินออกมาผลว่ามันมีกลิ่นของ cinnamon หรืออบเชยอยู่ในทีครับ เจือด้วยกลิ่นของคาราเมลที่ค่อนข้างจะชัดเจนครับ
ผสมๆ ไปกับกลิ่นผลไม้รสเปรี้ยวนิดๆ แต่ไม่ถึงกับ lemon หรือ ส้มครับ คล้ายๆ กับองุ่นเปรี้ยวมากกว่าครับ
ไม่มีกลิ่น Citrus ที่ชัดเจนเหมือน SM จาก Highland ครับ


ด้านสีนั้นจัดว่าค่อนข้างเข้มไปทางน้ำตาลแดงเลยครับ ไม่ใช่ทองอำพันเหมือน SM ที่คุ้นเคยเท่าไหร่
ขานั้นจัดได้ว่าค่อนข้างหนักไหลอืดเชียวครับ แต่ไม่ไหลลงมาเป็นเส้นๆ มันจะไหลแบบแตกๆ ทยอยกันลงมา และเกาะอยู่ข้างแก้วก็มีครับ

ต่อกันที่รสชาติไปเลยดีกว่าครับ
จิบแรกขมนิดๆ ตามด้วยอาการ burn ที่ปลายลิ้น ซ่าไปทั่วปาก พร้อมกับกลิ่นไหม้หน่อยๆ แบบน้ำตาลไหม้ครับ แปลกดีครับ 
จบด้วยความหวานและหอม เหมือนเวลากินคาราเมล ฉ่ำนิดๆ แต่ไม่มากครับ
After ค่อนข้างสั้นไปนิดครับ แต่ก็พอชวนให้อยากยกลองต่อพอประมาณ

แก้วที่สองขอเจือน้ำแร่ลงไปนิดหน่อย กลิ่นคาราเมลยังคงชัดเจนอยู่ ได้กลิ่นของ Apple กับกลิ่นลูกแพร์ชัดเจนขึ้นมาหน่อย
รสชาติบังเอิญว่าน้ำแร่ที่ผมผสมลงไปติดรสเปรี้ยว เลยดึงความเปรี้ยวออกมาซ่ะชัดเลยง่ะ  โบ๋ววว
ว๊าก... ไม่ไหวไม่ไหว ขอเป็นแล้วที่สามต่อดีกว่าครับ 


แก้วที่สามนี่ของเจือด้วยน้ำเปล่าไปเลยดีกว่าครับ เปิดน้ำแร่ไม่ดูซ่ะงั้น ฮ่วย.... ตายดีก่า
คราวนี้กลิ่นคาราเมลมาเต็มเลยครับ ชอบๆๆๆๆๆ ครับ 
ยังคงเจือด้วยกลิ่นของ Apple + สาลี่ หรือที่เรียกว่าลูกแพร์ เต็มๆ ดีครับ 
love love เลยครับ ด้านกลิ่นนี่เต็มสิบให้สิบ ด้วยความชอบส่วนตัวล้วนๆ ครับ 

ข้อสำคัญต้องรสชาติมากกว่าชิมิ ว่าแล้วก็จัดไปเลยครับ
โอ้ว...  inlove มันใช่เลยครับ เติมน้ำลงไปสักนิดนี่กำจัดจุดอ่อนเรื่องความขมไปได้เลยครับ
เนียนกริบ balance กำลังลงตัวเลยครับ ให้ความหวานอวลๆ อยู่ในปากนานขึ้นชวนให้หลงได้ไม่ยากเย็นเชียวครับเจ้านี่
ว่าแต่ว่า.... ผสมคราวหน้าด้วยความเริ่มมึนๆ ในคราวนี้ผมจะใส่น้ำในสัดส่วนที่ลงตัวได้มั๊ยหว่า  กลัว

สรุปแล้วโดยส่วนตัวเจ้า Ballantine's Christmas Reserve ขวดนี้สำหรับผมแล้ว
แบบ neat ดูจะติดขมไปหน่อยครับ ต้องหยดน้ำลงไปช่วยบรรเทาสักนิดหน่อย 
ผมว่าอัตราส่วนที่เหมาะน่าจะเป็นประมาณ น้ำครึ่งฝาต่อหนึ่ง Shot ครับ แต่ลองปรับเปลี่ยนแล้วแต่ความชอบอีกทีก็ได้นะครับ 

ปล. ทิ้งท้ายความคิดเห็นทั้งหมดเป็นข้อคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ เหมือนเช่นเคย ไม่รับประกันความถูกต้อง
เพราะเป็นความชอบส่วนตัวล้วนๆ ครับ ผิดพลาดประการใดขอน้อบรับไว้ทุกอย่างครับ 

วันพุธที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2554

Old Parr 12 Year Old Blended Scotch Whisky


........Old Parr 12 Year Old Blended Scotch Whisky......เป็น Blended Whisky เกรดพรีเมี่ยม จาก Diageo เปิดตัวในปี 1909 ขายดีใน ญี่ปุ่น, เม็กซิโก, โคลอมเบีย และ เวเนซุเอลา…..มีส่วนผสมที่สำคัญจากโรงกลั่น Glendullan และ Cragganmore....เป็นเหล้าที่ทาง Diageo ก็เอามาจำหน่ายในบ้านเหล้าเหมือนกันแต่ไม่ค่อยทำการตลาดเท่าใด...จะเน้นไปทางลูกค้าที่เป็นทางต่างชาติ เช่น ญี่ปุ่น และ เกาหลี ที่เข้ามาทำงานในบ้านเรา.....ผมเคยเห็นที่ร้าน ธนิยะ สีลม ขนาดขวด 0.75 ราคาถ้าจำไม่ผิดประมาณ 1,250 บาท แต่ครั้งล่าสุดที่ไปไม่เจอแล้ว....ถ้าท่านใดอยากลองเหล้าตัวนี้ที่มีแสตมป์...ต้องลองหาแถวที่ ที่มีคน ญี่ปุ่น และเกาหลี อาศัยอยู่เยอะๆดู.....ที่ King หรือตามชายแดนก็มีนะครับ ขวดขนาด 1 ลิตร ราคาประมาณ 1,000 บาท (King ราคาเต็ม 1,250)



……..ขวดที่ผมได้มาได้รับการช่วยจัดหาจากพี่อัฐนั้นเอง....เป็นตัวฉลากรุ่นเก่า....ขนาด 1 ลิตร 43%......มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนชาวบ้านคือขวด......เป็นขวดแบบเหลี่ยมสีชา มีลายรอบขวด....ฟอยล์หุ้มขวดเป็นแบบ Single Malt เลย...แต่หลังจากแกะฟอยล์ออกมา กลับเป็นฝาพลาสติกธรรมดา และไม่มีลูกกลิ้ง....กล่องนั้นก็ไม่มีข้อความอันใดเลยนอกจากที่อยู่

........สีของเหล้าจะออกเป็น “สีน้ำตาลแดง” ลองแกว่งแก้วดู เหล้าค่อนข้างหนืดทีเดียว ค่อยๆไหลเป็นแผงลงมาช้าๆ เกือบนาทีทีเดียวถึงหยุด

........กลิ่นหอมมากๆ หอมติดจมูก....หอมโอ๊ค....มีกลิ่นหอมออกแนวผลไม้ด้วย...แต่แยกไม่ออกว่าเป็นกลิ่นผลไม้อะไร แฮ่ๆ

……..ดื่มแก้วแรก....นุ่มนวล....กลิ่นตีขึ้นจมูก......ไหลลงคอ..ร้อนวูบ......ไหลลงท้อง..ร้อนท้องวูบวาบเลย.....สงสัยท้องว่างหรือเปล่าไม่รู้.......ผมไม่สัมผัสได้ถึงควัน....ไม่เปรี้ยว....ดื่มน้ำเย็นตามหวาน....หวานคอ

.........After….ยาวปานกลาง.....แต่ทีเด่นคือรสที่ค้างอยู่ในปาก..เป็นแบบไม่มีสแลง...เป็นรสที่ค้างแบบชวนติดตาม

........ลอง On The Rock ออกตัวก่อนว่าผมเป็นคนทีไม่ชอบกินเหล้าแบบ On The Rock เลย จะเป็นแบบขม แล
ฝืนๆทุกครั้ง..ทุกยี่ห้อ....Old Parr นี่ก็เหมือนกัน....ผมเลยสรุปได้ว่า On The Rock เป็นแบบที่ตัวผมไม่ชอบเอง...ไม่เกี่ยวกับเหล้า

........ลองผสมโซดาน้ำ.....อร่อยครับ.....หอมหวาน...กลมกล่อม...เนื้อเหล้าเข้มข้น ...แต่ไม่ใช่เข้มข้นเพราะเติมเหล้าเยอะนะครับ….ไม่เปรี้ยว...และไม่มีควัน....รสค้างอยู่ในปาก..เป็นแบบดีไม่มีสแลง...ชวนให้กระดกแก้วต่อไปอีก....ลองเอา Dewar’s 12 YO เทียบ...รู้สึกได้เลยว่า Dewar’s 12 YO เนื้อเหล้าบางกว่า และ กลิ่น และรสที่ค้างอยู่ในปากไม่เนียนเท่ามีรสเปร่าๆลิ้นบ้าง

.......สรุป ยอดเยี่ยมครับสำหรับตัวนี้...ดื่มแบบเพรียวๆก็ได้.....ผสมโซดาน้ำก็ดี.....เหมาะสำหรับมีไว้ติดบ้านจริงๆ.....บ้านเราอาจจะหายากหน่อย.....แต่ตาม Duty Free มีหมดครับราคาก็คบได้.......

ปล. เหล้าที่ผมได้มาดูแล้วน่าจะเริ่มมีอายุบ้างแล้ว....เพราะเวลาที่ผมดื่มเหล้าผสมโซดาน้ำจะจับความรู้สึกว่าเหล้าเก่าไปหรือเปล่าได้....แต่ตัวนี้พึ่งจะเริ่มครับ...และยังเยี่ยมอยู่......ถ้าได้ตัวสดๆน่าจะดีขึ้นไปอีก